อักเซล ดิซาซี่ ปราการหลังของเชลซี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ว่าตัวเขาจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกับต้นสังกัด จนมีรายงานว่าถูกแยกให้ “กินข้าวคนเดียวและใช้ห้องน้ำแยก” จากเพื่อนร่วมทีมชุดใหญ่
สถานการณ์ของกองหลังชาวฝรั่งเศสวัย 27 ปี กลายเป็นที่น่าสนใจ หลังจากที่เชลซีไม่สามารถปล่อยตัวเขาออกจากทีมได้ทันเดดไลน์ของตลาดพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอขอยืมตัวพร้อมจ่ายค่ายืม 5 ล้านปอนด์ และรับผิดชอบค่าเหนื่อยทั้งหมด โดยมองว่าดิซาซี่คือตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของ นาเยฟ อาเกิร์ด ที่ย้ายออกไป
อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวกลับล่มลงในนาทีสุดท้ายเนื่องจากตัวนักเตะปฏิเสธที่จะย้ายไปร่วมทีมแบบยืมตัว ซึ่งล่าสุด ดิซาซี่ ได้ออกมาชี้แจงผ่าน Le Media Carre สื่อในฝรั่งเศสว่า สาเหตุที่เขาปฏิเสธทั้งเวสต์แฮมและบอร์นมัธ เป็นเพราะหัวใจของเขาเรียกร้องที่จะกลับไปค้าแข้งกับ “โมนาโก” สโมสรเก่าที่เขาสร้างชื่อขึ้นมา
“ในช่วงระหว่างที่ บอร์นมัธ และ เวสต์แฮม ติดต่อเข้ามา โมนาโกก็ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาเช่นกัน และมันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผมอย่างจัง” ดิซาซี่กล่าว
“ผมมี 3 ปีที่น่าเหลือเชื่อที่โมนาโก เมื่อพวกเขาติดต่อเข้ามา ความทรงจำดีๆ ทุกอย่างก็กลับมาทั้งหมด โมนาโกคือบ้าน ผมหวังว่าเชลซีจะหาทางออกให้ผมย้ายไปที่นั่นแบบยืมตัวได้ ผมพยายามผลักดันดีลนี้จนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อที่จะได้กลับไปโมนาโก”
น่าเสียดายที่การย้ายกลับไปสู่ทีมดังแห่งลีกเอิงก็ไม่เกิดขึ้น คาดว่าอาจเป็นเพราะโมนาโกไม่พร้อมที่จะจ่ายค่ายืมตัว 5 ล้านปอนด์ หรือรับผิดชอบค่าเหนื่อยของเขาที่สูงถึง 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ตามข้อมูลจาก Capology)
ปัจจุบัน ดิซาซี่ยังคงมีสัญญากับเชลซีถึงปี 2029 แต่สถานการณ์ของเขากลับไม่แน่นอนอย่างยิ่ง โดยยังไม่มีชื่ออยู่ในทีมแม้แต่นัดเดียวในฤดูกาลนี้ และยังคงถูกเชื่อมโยงกับการย้ายไปค้าแข้งในลีกตุรกีกับ เบซิคตัส ซึ่งตลาดซื้อขายยังคงเปิดทำการจนถึงวันที่ 12 กันยายนนี้