คลื่นลูกใหม่มักจะซัดแรงเสมอ และในวงการ MotoGP ตอนนี้ ชื่อของ เฟร์มิน อัลเดเกร์ (Fermín Aldeguer) คือคลื่นลูกยักษ์ที่กำลังก่อตัว
หลังจากสร้างผลงานกระหึ่ม คว้าตำแหน่ง “ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี” (Rookie of the Year 2025) มาครองได้อย่างสมศักดิ์ศรีในวัยเพียง 20 ปี ล่าสุด อัลเดเกร์ ก็ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนและท้าทายไปยังบรรดาบิ๊กทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มหาอำนาจสีแดง” อย่างดูคาติ
แม้ว่าในปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง อัลเดเกร์ จะยังคงโลดแล่นอยู่กับทีมแซทเทลไลท์อย่าง เกรซินี่ ดูคาติ (Gresini Ducati) ด้วยรถสเปคเก่าหนึ่งปี (GP25) แต่ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเจ้าหนูมหัศจรรย์ชาวสเปนผู้นี้ จะไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็น “นักบิดทีมรอง”
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด อัลเดเกร์ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ของเขาอย่างไม่เกรงกลัวบารมีใคร:
“ถ้าเราทำผลงานได้ดีในฤดูกาลหน้า (2026) บางทีในปี 2027 เราอาจจะได้ไปอยู่ ‘ทีมสีแดง’ ก็ได้”
คำว่า “ทีมสีแดง” (El equipo rojo) ในบริบทของ MotoGP มีความหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือ “ทีมโรงงานดูคาติ” (Ducati Lenovo Team) ที่นั่งในฝันของนักบิดทุกคน
นี่คือคำประกาศกร้าวที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน การที่ดาวรุ่งวัย 20 ปี กล้า “จับจอง” และ “ส่งสาร” ไปยังทีมโรงงานตั้งแต่เนิ่นๆ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในฝีมือที่เกินวัย เขารู้ดีว่าผลงานในปี 2026 กับทีมเกรซินี่ จะเป็น “ใบเบิกทาง” ชิ้นสำคัญที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ปี 2027 คือปีที่ MotoGP จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎเทคนิคครั้งใหญ่ (New Era) การที่ อัลเดเกร์ ตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมโรงงานในปีนั้นพอดี จึงไม่ใช่แค่การเลื่อนชั้นธรรมดา แต่มันคือการประกาศว่า เขาต้องการเป็น “นักบิดผู้นำ” ในยุคใหม่ของดูคาติ
คำพูดสั้นๆ แต่หนักแน่นครั้งนี้ของ เฟร์มิน อัลเดเกร์ ได้จุดไฟให้ตลาดนักบิด หรือ “Silly Season” ล่วงหน้าสำหรับปี 2027 ลุกโชนขึ้นมาทันที และตอนนี้ แรงกดดันมหาศาลก็ได้ตกไปอยู่ที่ตัวเขาเอง ที่จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เขา “ดีพอ” สำหรับเก้าอี้ที่ร้อนที่สุดในวงการโมโตจีพี