บรรยากาศหลังเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อคืนวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเรื่องกระทบกระทั่งกับ คริสเตียน โรเมโร่ เซนเตอร์แบ็กของสเปอร์ส จนเกือบจะบานปลาย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย โดยทั้งสองคนมีจังหวะปะทะกันอย่างดุเดือดตลอดทั้งเกม ซึ่ง แม็กไกวร์ ก็ได้รับใบเหลืองจากการเข้าปะทะทางอากาศกับ โรเมโร่ ในช่วงท้ายเกมด้วย ขณะที่นักเตะสเปอร์สกำลังเตรียมฉลองแชมป์ยุโรปครั้งแรกในรอบ 17 ปี โรเมโร่ได้เดินเข้าไปหา แม็กไกวร์ เพื่อพยายามจะจับมือด้วย แต่ปราการหลังทีมชาติอังกฤษปฏิเสธที่จะรับไมตรีในตอนแรก และพยายามเดินเลี่ยงออกไป
จากนั้น ขณะที่ โรเมโร่ เดินไปปลอบใจ ดิโอโก้ ดาโลต์ เพื่อนร่วมทีมของแม็กไกวร์, กองหลัง “ปีศาจแดง” กลับเดินตามเข้าไปหาเรื่อง โรเมโร่ อย่างรวดเร็ว มีรายงานว่า แม็กไกวร์ ได้พูดจาบางอย่างกับ โรเมโร่ พร้อมกับชี้ไปยังอีกฝั่งของสนาม ก่อนจะใช้มือผลักไปที่หน้าอกของกองหลังสเปอร์ส จนทีมงานโค้ชที่อยู่บริเวณนั้นต้องเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยมี ดาโลต์ ยืนกอดอกมองดูเหตุการณ์ ขณะที่ โรเมโร่ ดูค่อนข้างงุนงงกับท่าทีเกรี้ยวกราดของแม็กไกวร์
Cristian Romero went over to speak to Harry Maguire at the end and the two have to be separated after Maguire fires back at him @MailSport #mufc pic.twitter.com/QQtIzKi2oe
— Nathan Salt (@NathSalt1) May 21, 2025
ชนวนเหตุของความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคนดูเหมือนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ โรเมโร่ ล้มลงในสนามหลังจากถูก ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด เข้าปะทะ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ แม็กไกวร์ อย่างมาก เนื่องจากมองว่าเป็นการปะทะเพียงเล็กน้อย โดยมีภาพที่ แม็กไกวร์ พูดกับ โรเมโร่ ว่า “นายเป็นกัปตันทีมนะ เอาหน่อยสิ” ซึ่งน่าจะหมายถึงการที่กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ล้มลงง่ายเกินไป
อย่างไรก็ตาม ความไม่พอใจของ แม็กไกวร์ ดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ โรเมโร่ เพียงคนเดียว เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถูกพบว่ากำลังสวมกอดกับ เจมส์ แมดดิสัน เพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ ซึ่งพลาดเกมนัดชิงนี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ก็มาร่วมฉลองกับเพื่อนร่วมทีมสเปอร์สในชุดแข่งเต็มยศเพื่อรับเหรียญแชมป์
สำหรับ โรเมโร่ เขาได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมในเกมนี้ เนื่องจาก ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมตัวจริง มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองหลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ ก่อนที่ ซน จะถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วงครึ่งหลังและรับปลอกแขนกัปตันทีมต่อ และกลายเป็นศูนย์กลางของการเฉลิมฉลองเมื่อได้ชูถ้วยแชมป์ยุโรปใบแรกของสเปอร์สในรอบ 41 ปี สร้างความปิติยินดีให้กับแฟนบอลอย่างล้นหลาม
“มันรู้สึกสุดยอดมาก มันคือสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด และวันนี้มันก็เกิดขึ้นจริง ความฝันของผมเป็นจริงแล้ว ผมคือผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก” ซน ฮึง-มิน กล่าวกับ TNT Sports “เมื่อคุณมองย้อนกลับไปตลอดทั้งฤดูกาล มันมีบางช่วงเวลาที่คุณต้องเจอกับความยากลำบาก แต่ในฐานะผู้เล่น เรายังคงเหนียวแน่นไปด้วยกัน ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ ทั้งผู้เล่นดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมา ผมจะให้คำแนะนำดีๆ กับพวกเขาเสมอ และผมโชคดีมากที่มีกลุ่มผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอยู่กับผม”
“ผมรู้สึกถึงความกดดัน ผมต้องการมันมากจริงๆ ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมา ผมฝันถึงมันทุกวัน และในที่สุดมันก็เกิดขึ้น ผมนอนหลับฝันดีได้แล้วตอนนี้”
เหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่าง แม็กไกวร์ และ โรเมโร่ กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันและความดราม่าหลังเกมนัดชิงชนะเลิศที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้น