ไอคอนแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ! เดวิด เบ็คแฮม ตำนานกัปตันทีมชาติอังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน (Knighthood) ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษวัย 50 ปี เคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติชชั้นเจ้าพนักงาน (OBE) มาแล้วในปี 2003 แต่ล่าสุด BBC Sport รายงานว่า เขาเตรียมที่จะได้รับการยกย่องเพิ่มเติมสำหรับความสำเร็จทั้งในอาชีพค้าแข้งและการอุทิศตนเพื่อสังคมของสหราชอาณาจักร โดยรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานจะมีการประกาศในสัปดาห์หน้า
เบ็คแฮม ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษไป 115 นัด และเคยค้าแข้งให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, แอลเอ กาแล็กซี่, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เอซี มิลาน ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2013
มีรายงานว่า เบ็คแฮมเคยถูกเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานยศอัศวินเป็นครั้งแรกในปี 2011 ในปี 2017 หนังสือพิมพ์หลายฉบับในอังกฤษได้ตีพิมพ์รายละเอียดของอีเมลที่รั่วไหล ซึ่งเบ็คแฮมได้วิพากษ์วิจารณ์ระบบและคณะกรรมการพิจารณาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยโฆษกของเบ็คแฮมกล่าวในขณะนั้นว่าอีเมลดังกล่าวถูก “แฮก”, “ตัดต่อ” และเป็น “เรื่องส่วนตัว”
นอกเหนือจากความสำเร็จในสนาม เบ็คแฮมยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลอนดอนได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2012 และยังดำรงตำแหน่งทูตขององค์การยูนิเซฟ (Unicef) มาตั้งแต่ปี 2005 ยูนิเซฟ ซึ่งให้การสนับสนุนเด็กที่เปราะบางทั่วโลก ได้เปิดตัว ‘กองทุนเดวิด เบ็คแฮม ยูนิเซฟ’ ในปี 2015 เพื่อฉลองครบรอบหนึ่งทศวรรษของความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย
ในปี 2024 เบ็คแฮมได้กลายเป็นทูตของ The King’s Foundation เพื่อสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และความพยายามที่จะทำให้เยาวชนมีความเข้าใจในธรรมชาติมากขึ้น
เขายังเป็นเจ้าของร่วมของ ซัลฟอร์ด ซิตี้ สโมสรในลีกทู รวมถึงเป็นประธานและเจ้าของร่วมของ อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ของสหรัฐอเมริกา เขามีส่วนร่วมในการก่อตั้งมูลนิธิ อินเตอร์ ไมอามี่ ซีเอฟ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน และมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างศักยภาพให้กับชุมชนที่ขาดแคลน โดยใช้ฟุตบอลเป็นตัวกระตุ้น
โฆษกของรัฐบาลกล่าวว่า: “เราไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสข่าวเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์”
ตัวแทนของ เบ็คแฮม ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น