ท่ามกลางอุณหภูมิเพียง 2 องศาและลมหนาวที่พัดผ่านเมืองเล็กๆ อย่าง “เซอร์เวร่า” (Cervera) แต่หัวใจของชาวเมืองและแฟนคลับกว่า 30,000 คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลกกลับอบอุ่นและร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
วันเสาร์ที่ผ่านมา เมืองทั้งเมืองถูกประดับประดาด้วยหมายเลข 93 และ 73 ภายใต้คอนเซปต์ “Back 2 Back, Márquez Brothers making history” เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน: พี่ชาย มาร์ค มาร์เกซ คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 9 และน้องชาย อเล็กซ์ มาร์เกซ จบในฐานะรองแชมป์โลก
4 ปีแห่งความมืดมน สู่บัลลังก์ราชัน บนระเบียงศาลาว่าการเมือง มาร์ค มาร์เกซ กล่าวถ้อยคำที่กินใจแฟนๆ ที่สุด “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมในช่วง 4 ปีแห่งความมืดมน เพื่อให้วันนี้เราได้มาฉลองด้วยกัน” ประโยคนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดและการต่อสู้กับอาการบาดเจ็บที่ยาวนานกว่าเขาจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง
“ผมอาจจะเสียเวลาในอาชีพไป 3 ปี แต่ผมได้กำไรชีวิตและความเป็นผู้ใหญ่มาถึง 6 ปี” มาร์คกล่าวอย่างคมคาย
คู่แข่งในสนาม พี่น้องในชีวิตจริง ไฮไลต์สำคัญคือความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อเล็กซ์ มาร์เกซ ยอมรับว่าปีนี้คือการเรียนรู้ระดับมาสเตอร์คลาส “การขี่ตามหลังมาร์ค คือบทเรียนที่ดีที่สุด เขาจะชนะต่อไปตราบเท่าที่เขาอยากจะชนะ”
ในขณะที่มาร์คเองก็ประกาศกร้าวต่อหน้าแฟนๆ ว่า “อเล็กซ์ เป็นคนเดียวที่แย่งตำแหน่งผู้นำจากผมได้ ปีหน้าเขาอาจจะเป็นแชมป์โลกก็ได้ ใครจะรู้” พร้อมยืนยันว่าการแย่งชิงแชมป์กันเองในปีนี้ ไม่ได้ทำให้พวกเขาแตกแยก แต่กลับ “รวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกันยิ่งกว่าเดิม”
แม้มาร์คจะไม่สามารถขี่โชว์ได้เนื่องจากสภาพร่างกาย แต่ขบวนพาเหรดรถมอเตอร์ไซค์กว่า 200 คันที่นำโดยอเล็กซ์ บนรถ Ducati GP24 คู่ใจ ก็เพียงพอที่จะทำให้เซอร์เวร่ากลายเป็น “เมืองหลวงแห่งกีฬามอเตอร์สปอร์ต” อย่างที่นายกเทศมนตรีกล่าวไว้
นี่คือค่ำคืนที่ “พิเศษ” และ “เป็นหนึ่งเดียว” อย่างที่สองพี่น้องนิยามไว้ เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ ณ วินาทีนี้ โลกทั้งใบเป็นของตระกูล “มาร์เกซ”
