เบื้องหลังการย้ายทีมครั้งประวัติศาสตร์ของ วิคเตอร์ เกียวเคเรส สู่ อาร์เซน่อล คือเรื่องราวของการทำงานหนัก, ความทุ่มเทอย่างไม่ลดละ และการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ที่ได้เปลี่ยนเด็กหนุ่มผู้แข็งแกร่งแต่ยังไม่โดดเด่น ให้กลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ดาวยิงที่น่าจับตามองที่สุดในโลกฟุตบอล
The Athletic ได้มีโอกาสพูดคุยกับอดีตเพื่อนร่วมทีมและโค้ชของเขา เพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่หล่อหลอมให้ “เจ้าลูกชิ้นสวีเดนร่างยักษ์” กลายมาเป็นกองหน้าที่อาร์เซน่อลยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าตัวมา
จากสนามกรวดสู่สายตาแมวมอง “ตอนแรกผมยังไม่แน่ใจ” เดวิด เอคลุนด์ แมวมองผู้ค้นพบเขาในวัย 11 ปีกล่าว “เขาแข็งแกร่งมาก… ในกรอบเขตโทษเขาคือเพชฌฆาต แต่เทคนิคเขายังไม่ดีนัก ผมไม่คิดว่าเขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์ได้”
แต่สิ่งที่เอคลุนด์ยังไม่รู้ในตอนนั้น คือจรรยาบรรณในการทำงานที่ไม่ธรรมดาของเด็กหนุ่มคนนี้ “เขาเริ่มต้นกับเราบนสนามกรวด” บียอร์น ธูเรสสัน ประธานสโมสรในวัยเด็กของเขากล่าว “คุณมักจะเห็นวิคเตอร์และเพื่อนๆ ของเขาซ้อมกันก่อนที่การซ้อมจริงจะเริ่มเสียอีก”
“เขาไม่ใช่ตัวจบสกอร์โดยธรรมชาติ” แม้จะย้ายมาอังกฤษกับ ไบรท์ตัน แต่โอกาสของเขาก็มีจำกัด “สิ่งที่โดดเด่นคือทัศนคติและความกระหายของเขา” เดล สตีเฟนส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ไบรท์ตันกล่าว “แต่ผมคงไม่พูดว่าในตอนนั้นเขาเป็นตัวจบสกอร์โดยธรรมชาติ การจบสกอร์ของเขาในตอนนี้คือเครื่องพิสูจน์ของการทำงานหนัก”
“เจ้าลูกชิ้นสวีเดนหัวโต” ที่โคเวนทรี จุดเปลี่ยนที่แท้จริงของเขาเกิดขึ้นที่ โคเวนทรี ซิตี้ “เขากลับมาพร้อมกับกล้ามเนื้อที่มากขึ้นและแข็งแกร่งกว่าเดิม” เบน ชีฟ อดีตเพื่อนร่วมทีมกล่าว “เขาจะซ้อมยิงประตูหลังการซ้อมปกติเสมอ… เบน วิลสัน ผู้รักษาประตูของเราเคยเรียกเขาว่า ‘เจ้าลูกชิ้นสวีเดนหัวโต’ ด้วยสำเนียงจอร์ดี้ของเขา”
เรื่องราวทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ว่า วิคเตอร์ เกียวเคเรส ไม่ใช่แค่เครื่องจักรทำประตู แต่คือผลผลิตของการทำงานหนักและความทุ่มเทอย่างไม่หยุดยั้ง และตอนนี้เขาก็พร้อมแล้วสำหรับบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซน่อล