ดีลแลกตัวระหว่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และ เบนจามิน เซสโก้ อาจเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดของปรัชญาการทำทีมฟุตบอลภายใต้การนำของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซึ่งความรู้สึกและอารมณ์ต้องหลีกทางให้กับความเยือกเย็นและการคำนวณอย่างเบ็ดเสร็จ
ฮอยลุนด์, นักเตะที่เติบโตมากับการเชียร์สโมสรแห่งนี้และต้องการจะสู้ต่อ, กลับต้องพบกับความจริงอันโหดร้าย เมื่อบอร์ดบริหารชุดใหม่ตัดสินใจว่าเขาคือ “อดีต” และเป็นสัญลักษณ์ของการใช้เงินที่ผิดพลาดในยุคก่อน นี่คือเรื่องราวเบื้องลึกของตลาดซื้อขายที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้งของ “ปีศาจแดง”
บทสรุปความฝันที่แหลกสลายของฮอยลุนด์
แม้จะทุ่มเทและเป็นมืออาชีพมาตลอด แต่ ฮอยลุนด์ ก็ถูกปฏิบัติราวกับเป็นส่วนเกิน เขาถูกดร็อปในเกมปรีซีซั่นนัดสำคัญ, ไม่มีชื่อในเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีก และถูกทอดทิ้งแม้กระทั่งในวันที่ทีมยังไม่มี เซสโก้ พร้อมลงสนาม แหล่งข่าวเผยว่า ฮอยลุนด์ รู้สึกว่าตนเองเก่งกว่ากองหน้าที่สโมสรกำลังจะทุ่มเงิน 85 ล้านยูโรเพื่อดึงตัวมา และพยายามพิสูจน์ตัวเองในสนามซ้อมจนถึงที่สุด
แต่การตัดสินใจได้เกิดขึ้นแล้ว ในสายตาของผู้บริหารชุดใหม่ ฮอยลุนด์ คือดีลที่ “โอเวอร์เพย์” และเป็นมรดกจากทีมจัดซื้อชุดเก่าที่พวกเขาต้องการลบออกไป บทสรุปคือการย้ายไป นาโปลี ด้วยสัญญายืมตัวพ่วงออปชั่นซื้อขาด ทิ้งไว้เพียงหัวใจที่แหลกสลายของดาวยิงวัย 22 ปี ที่ความฝันในโอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงเร็วกว่าที่คิด
ปฏิบัติการล้างบาง และการตัดสินใจที่เด็ดขาด
นอกเหนือจากกรณีของฮอยลุนด์ ตลาดรอบนี้ยังเป็นการปิดบัญชีผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ รูเบน อโมริม อย่างชัดเจน
- อเลฮานโดร การ์นาโช่: ความสัมพันธ์ที่แตกร้าวกับอโมริมมานานหลายเดือน ประกอบกับความต้องการของนักเตะที่อยากย้ายไปลอนดอน ทำให้ดีลกับเชลซีเกิดขึ้น แม้จะได้ค่าตัวน้อยกว่าที่ตั้งไว้ในตอนแรก
- แอนโทนี่: การย้ายกลับไป เรอัล เบติส เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการยืมตัว แม้จะเป็นการขายที่ขาดทุนมหาศาลจากราคา 100 ล้านยูโร แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ
- จาดอน ซานโช่: การย้ายไป แอสตัน วิลล่า แบบยืมตัว ช่วยลดภาระค่าเหนื่อยมหาศาล และเปิดทางให้สโมสรเดินหน้าต่อไป
การจัดการกับผู้เล่นกลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเด็ดขาดของทีมบริหาร ที่ไม่ลังเลจะตัดขาดทุนเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีวินัยตามที่ผู้จัดการทีมต้องการ
เบื้องหลัง “Project 90” และอำนาจของแรตคลิฟฟ์
เบื้องหลังการตัดสินใจที่ดูเหมือนจะเสี่ยงและดุดันนี้ คือแผนการที่ถูกวางไว้อย่างแยบยล มีการเปิดเผยถึง “Project 90” ซึ่งเป็นรหัสภายในของสโมสร มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงงบดุลของสโมสรให้ดีขึ้น 90 ล้านปอนด์ในแต่ละปี ผ่านการซื้อขายผู้เล่นที่ดีขึ้น, การเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ และการประหยัดค่าใช้จ่าย
เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ คือผู้นำแนวคิดนี้ เขากล้าที่จะเสี่ยงทางการเงิน อนุมัติการซื้อผู้เล่นสำคัญเข้ามาก่อนที่จะขายใครออกไป โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถถอนทุนคืนได้ในภายหลัง ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างจากฝั่งตระกูลเกลเซอร์ที่เน้นความระมัดระวังมากกว่า แม้ว่าทุกการตัดสินใจจะได้รับการอนุมัติจากทั้งสองฝ่าย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอำนาจและทิศทางของสโมสรกำลังถูกขับเคลื่อนโดย INEOS อย่างเต็มรูปแบบ
ตลาดซัมเมอร์นี้คือการผ่าตัดใหญ่ที่เจ็บปวดแต่จำเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้กำจัดส่วนเกิน, สร้างทีมใหม่ตามวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีม และวางรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นภายใต้ “Project 90” ซึ่งความสำเร็จของปฏิบัติการทั้งหมดนี้ จะถูกพิสูจน์ในสนามแข่งขันนับจากนี้เป็นต้นไป