เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงประตูโทนตั้งแต่ครึ่งแรกช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 ที่ลอนดอนตะวันตก พร้อมขยับเข้าใกล้จ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล เหลือเพียงสามแต้ม แต่เกมนี้มีข่าวร้ายเมื่อ โรดรี ต้องออกจากสนามตั้งแต่ต้นเกมเพราะอาการบาดเจ็บ
ในครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า ครองเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยหัวหอกชาวนอร์เวย์โชว์พลังทะลวงแนวรับผ่าน เซ็ป ฟาน เดน เบิร์ก ก่อนซัดเต็มข้อเป็นประตูที่ 18 ของฤดูกาล ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
ขณะเดียวกัน กาโออิมฮิน เคลเลเฮอร์ ก็โชว์ซูเปอร์เซฟปฏิเสธลูกยิงของ ทิจานี เรจน์เดิร์ส ส่วน ฟิล โฟเดน พลาดโอกาสทองหลายครั้ง ทำให้ เบรนท์ฟอร์ด ไม่สามารถบุกเข้ามาแตะบอลในกรอบเขตโทษของ ซิตี้ ได้เลย และควรจะโดนนำมากกว่านี้ตั้งแต่ครึ่งแรก
แต่แล้วในนาทีที่ 20 โรดรี ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก หลังจับต้นขาขวาของตนเองจากจังหวะวิ่ง โดย เป๊ป กวาร์ดิโอลา แสดงความเป็นห่วง เพราะก่อนหน้านี้เขากำลังค่อย ๆ ปรับจังหวะลงสนามของมิดฟิลด์รายนี้ หลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า (ACL) จากฤดูกาลก่อน
อย่างไรก็ตาม ภาพของ โรดรี ที่ยืนข้างสนามคอยให้คำแนะนำเพื่อนร่วมทีม และร่วมดีใจหลังจบเกม ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับแฟน ๆ
ฤดูกาลที่แล้ว การขาดหายไปของ โรดรี มีผลกระทบอย่างชัดเจนต่อฟอร์มของทีม และครึ่งหลังของเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็เริ่มเสียการครองเกม เมื่อเจ้าบ้านเพิ่มจังหวะบุกอย่างดุดัน
อิกอร์ ติอาโก้ พลาดโอกาสทองสุด ๆ เมื่อหลุดเดี่ยวไปดวลกับ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ที่ออกมาปิดมุมได้ยอดเยี่ยม ขณะเดียวกัน เบรนท์ฟอร์ด ยังพยายามโยนลูกโด่งเข้ากรอบอย่างต่อเนื่องเพื่อหาช่องตีเสมอ
แต่สุดท้ายแนวรับของ เรือใบสีฟ้า ก็ยังคงเหนียวแน่น หลังจากเพิ่งโดน โมนาโก ยิงตีเสมอช่วงทดเวลาในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คราวนี้พวกเขาปิดเกมได้อย่างเฉียบขาด
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืดสถิติไม่แพ้ใคร 7 นัดติดต่อกัน ก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติ และยังรั้งอันดับ 5 ของตารางด้วยคะแนนที่ใกล้จ่าฝูงสุด ๆ
ส่วนทางฝั่ง เบรนท์ฟอร์ด ที่ไม่สามารถทำประตูได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ ยังคงรั้งอันดับ 16 ต่อไปในตารางพรีเมียร์ลีก