ดูเหมือนว่าบัลลังก์ “นักฟุตบอลผู้คลั่งไคล้ซูเปอร์คาร์” คนต่อไป อาจจะตกเป็นของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไปเสียแล้ว! ดาวยิงฟอร์มระเบิดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ได้ให้รางวัลตัวเองครั้งล่าสุดด้วยการถอยรถหรูคันใหม่เข้าสู่คอลเลคชั่นส่วนตัว ซึ่งทำให้มูลค่ารวมของรถในครอบครองของเขาพุ่งทะยานไปแตะระดับ 10.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 504 ล้านบาท) เข้าไปแล้ว!
รถคันล่าสุดที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในโรงรถสุดหรูของดาวยิงชาวนอร์เวย์ก็คือ Lamborghini Huracán Sterrato สีเขียวด้านสุดเท่ สนนราคาเบาๆ ที่ 250,000 ปอนด์ (ประมาณ 11.8 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเหนื่อยของเขาที่เกือบ 1 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์แล้ว ก็แทบจะเท่ากับ ค่าเหนื่อยเพียงแค่ 2 วัน เท่านั้น!
เจ้ากระทิงดุ Sterrato คันนี้ไม่ใช่ Huracán ธรรมดา แต่มันถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโร้ดโดยเฉพาะ และผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัดเพียง 1,499 คัน ทั่วโลกเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 602 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 260 กม./ชม.
อย่างไรก็ตาม ราคา 11 ล้านบาทนี้ยังถือว่า “จิ๊บจ๊อย” เมื่อเทียบกับอสูรกายคันอื่นๆ ในคอลเลคชั่นของเขา
- Bugatti Tourbillon: ไฮเปอร์คาร์ที่เพิ่งมีข่าวว่าเขาร่วมทุนกับมหาเศรษฐีนักสะสมรถซื้อมาในราคา 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 192 ล้านบาท) ซึ่งผลิตเพียง 250 คันในโลก!
- Mercedes AMG-ONE: รถแข่ง F1 บนท้องถนน มูลค่า 2.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 130 ล้านบาท) ผลิตจำกัด 275 คัน
- Ferrari Monza SP2: ยอดยนตรกรรมไร้หลังคาสุดคลาสสิก ราคา 2.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 120 ล้านบาท) ผลิตเพียง 499 คัน
นอกจากนี้ ในโรงรถของเขายังมีทั้ง Ferrari 812 Superfast, Aston Martin DBX 4×4, Rolls-Royce Cullinan, Mercedes Maybach และอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่าแล้วกว่าครึ่งพันล้านบาท!
การใช้ชีวิตอันหรูหรานี้ คือภาพสะท้อนความสำเร็จในสนามของเขาอย่างแท้จริง ฮาลันด์กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของโลก กดไปแล้ว 11 ประตูในพรีเมียร์ลีก นำโด่งดาวซัลโว และอีก 3 ประตูในแชมเปียนส์ลีก รวมเป็น 23 ประตู จาก 13 นัดให้สโมสรและทีมชาติในฤดูกาลนี้
“ผมไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อนเลย” ฮาลันด์กล่าวหลังเกมล่าสุด ซึ่งเขาเชื่อว่าการได้เป็น “คุณพ่อ” คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟอร์มดีขึ้น “การมีลูกทำให้ผมผ่อนคลายมากขึ้น ผมไม่คิดเรื่องฟุตบอลเลยตอนอยู่บ้าน”
ดูเหมือนว่าทั้งชีวิตในสนามและนอกสนามของ เออร์ลิง ฮาลันด์ กำลังจะพุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดอย่างแท้จริง