ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงคนเดียวสองประตูสุดสวย ช่วยให้ทีมชาติ อังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป พร้อมโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สองสมัยติดต่อกัน
ผ่านมาเพียงหนึ่งปีหลังจากที่ทีมชาติชุดใหญ่ของอังกฤษเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร ชุดเล็กของ อังกฤษ ยู-21 ก็เดินตามรอยได้สำเร็จ โดยเกมนี้ เอลเลียตต์ ยิงสองประตูในครึ่งหลัง พาทีมเอาชนะไป 2-1 ที่เมืองบราติสลาวา
ดาวเตะวัย 22 ปีของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ยิงประตูแรกให้ทีมขึ้นนำหลังผ่านหนึ่งชั่วโมง ก่อนซัดประตูชัยสุดงามในนาทีที่ 86 หลังจากที่ โนอาห์ โอไฮโอ ยิงตีเสมอให้ทัพอัศวินสีส้มจากจังหวะแรกที่สัมผัสบอล
ทีมของ ลี คาร์สลีย์ เตรียมลงสนามพบกับผู้ชนะระหว่าง เยอรมนี กับ ฝรั่งเศส ในรอบชิงชนะเลิศวันเสาร์นี้ โดยหวังป้องกันแชมป์ที่คว้ามาเมื่อสองปีก่อน
ชัยชนะในเกมนี้ถือว่าสมศักดิ์ศรี เพราะพวกเขาเหนือกว่าทั้งเกม แม้ประตูของ เนเธอร์แลนด์ จะมาจากโอกาสแรกๆ ก็ตาม
อังกฤษ ยู-21 เกือบออกนำตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจังหวะที่ โอมาริ ฮัตชินสัน ลากลุยทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเรียดให้ เอลเลียตต์ ที่เสาสอง แต่จังหวะยิงต่ำของเจ้าตัวถูก โรบิน โรฟส์ นายทวารดัตช์ปฏิเสธได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยขา
อีกไม่กี่นาทีต่อมา โรฟส์ ก็ปฏิเสธลูกยิงของ เอลเลียตต์ อีกครั้ง หลังจาก เจย์ สแตนส์ฟิลด์ ไหลบอลคืนมาให้ยิงเหน่งๆ
แม้จะครองเกมได้เหนือกว่า แต่ อังกฤษ กลับไม่สามารถเจาะตาข่ายได้อีกจนเกือบหมดครึ่งแรก โดยจังหวะน่าลุ้นมาจากการต่อบอลสวยงามของ เจมส์ แม็คอาที ที่แทงให้ ฮัตชินสัน หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดกลับมาให้ อเล็กซ์ สกอตต์ ยิงแฉลบข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ทีม เนเธอร์แลนด์ ที่ไม่มีแม้แต่โอกาสยิงในครึ่งแรก เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาหลังพักครึ่ง โดยจังหวะทดสอบฝีมือครั้งแรกของ เจมส์ บีเดิ้ล มาจากลูกยิงไกลของ เอียน มัตเซ่น แบ็กซ้ายจาก แอสตัน วิลล่า ที่ยิงจากระยะ 25 หลา แต่ บีเดิ้ล รับไว้ได้
แม้จะโดนบุกหนักแต่กลับเป็น อังกฤษ ที่ออกนำในนาที 62 จากจังหวะที่ เอลเลียตต์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาเสาแรกอย่างเด็ดขาด หลังได้บอลจาก เอลเลียตต์ แอนเดอร์สัน
แต่ความได้เปรียบอยู่ไม่นาน เมื่อ โอไฮโอ ที่เพิ่งถูกส่งลงสนามยิงตีเสมอทันทีในจังหวะแรกที่สัมผัสบอล หลังจากที่ ชาร์ลี เครสเวลล์ ควบคุมบอลพลาด ทำให้ โอไฮโอ ตัดสินใจยิงทันทีจากมุมแคบฝั่งซ้ายส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของทัพ สิงโตคำรามจูเนียร์ ก็เป็นฝ่ายคว้าชัยในที่สุด เมื่อ เอลเลียตต์ แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดอีกครั้งในนาที 86 เขารับบอลมาจากระยะ 30 หลา ก่อนหมุนหลบตัวประกบแล้วพาบอลเข้าเขตโทษ กดเรียดส่งบอลเสียบมุมล่างอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตูชัยพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 2009