7msport

อเล็กซ์ มาร์เกซ: “ผมมีความสุขที่เป็นรองแชมป์โลก ทั้งที่ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวเราเลย”

“ผมคือ ‘คนแรกของผู้แพ้’ (Primero de los perdedores)”

นี่คือประโยคแรกที่ อเล็กซ์ มาร์เกซ พูดติดตลก หลังพาตัวเองเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 ของ สปรินท์ เรซ ที่ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์… ผลงานที่ “เพียงพอ” ที่จะทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการ

เขากลายเป็น “รองแชมป์โลก MotoGP 2025” อย่างเป็นทางการ และเมื่อรวมกับ มาร์ค มาร์เกซ (พี่ชาย) ที่คว้าแชมป์โลกไปแล้ว นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ “พี่น้องสายเลือดเดียวกัน” ครองอันดับ 1 และ 2 ของโลกในคลาสสูงสุด

แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น คือความกดดันที่เกือบจะทำให้เขาระเบิดออกมา

“ผมโคตรประสาทเลย ผมรู้สึกถึงความประหม่าทั้งหมดในโลกนี้” อเล็กซ์ สารภาพหลังการแข่งขัน “ผมขี่เกร็งไปหมด ขี่ได้ไม่ดีเลย ผมคิดแค่เรื่องเดียวคือการการันตีตำแหน่งรองแชมป์โลก”

เมื่ออารมณ์เริ่มนิ่งลง อเล็กซ์ ก็ได้เปิดใจอย่างลึกซึ้งที่สุดถึงสิ่งที่เขาแบกรับมาตลอด “ผมมีความสุขมาก… มีความสุขมากที่ได้เป็นรองแชมป์โลก ในวันที่ ‘ไม่มีใคร’ เชื่อมั่นในตัวเราเลย (cuando nadie daba un duro por nosotros)”

นี่คือคำพูดที่ตอกย้ำการเดินทางของเขา นักบิดที่มักจะถูกประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริง (Undervalued) และถูกมองว่าเป็นเพียง “น้องชายของแชมป์โลก”

เขายกความดีความชอบให้ทีม เกรซินี ที่เชื่อมั่นในตัวเขาตั้งแต่ปี 2023 “พวกเขาให้ความมั่นใจผม ให้ผมได้สร้างเส้นทางของตัวเอง… สไตล์ของผมมันเหมือน ‘เครื่องดีเซล’ คือค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าใกล้กลุ่มท็อป”

แต่อเล็กซ์ มาร์เกซ ก็ “ซื่อสัตย์” พอที่จะยอมรับว่า “โชค” ก็มีส่วนสำคัญ “ผมโชคดีมากที่ปีนี้ Ducati ไม่ได้พัฒนารถใหม่ (GP25) ก้าวกระโดดไปไกลนัก มันเป็นแค่การต่อยอด… นั่นเลยทำให้เรา (ที่ใช้รถเก่า) มีเครื่องมือที่จะต่อสู้ได้อย่างสูสีตั้งแต่ต้น”

จุดที่ลึกซึ้งที่สุด คือการที่เขาวิเคราะห์ “จุดอ่อน” ของตัวเอง ที่กลายเป็น “จุดแข็ง” ที่สุด “ผมเป็นคนที่ ‘วิจารณ์ตัวเอง’ (Autocrítica) หนักมาก และผมก็ ‘ขายตัวเองไม่เก่ง’ (me se vender muy poco) นั่นคือเหตุผลที่หลายคนไม่เห็นคุณค่าในตัวผม”

“ผมโกหกไม่เป็น” อเล็กซ์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “เวลาที่ผมขี่ได้ไม่ดี ผมก็จะบอกว่าผมขี่ไม่ดี ไม่มีปัญหาเลย… วันนี้รถก็ไม่ดีจริงนั่นแหละ แต่ผมควรจะขี่ได้ดีกว่านี้มาก… นี่คือตัวตนของผม และผมคิดว่ามันคือคุณธรรมที่ช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้ได้”

วันนี้ เขาสามารถสลัดความกดดันทั้งหมดทิ้งไปได้แล้ว หลังจากที่เขาบอกว่า “ขนตาของผมมันสั่นไปหมด (me temblaban hasta las pestañas)”

“ผมหวังว่ามันจะมีครั้งต่อไปอีก และผมจะไม่ประสาทแดกแบบนี้อีกแล้ว” อเล็กซ์ กล่าวทิ้งท้าย