คริสตัล พาเลซ ยืนยันว่า วูดดี้ จอห์นสัน เจ้าของ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 43% จาก อีเกิล ฟุตบอล โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นของ จอห์น เทกซ์เตอร์ ด้วยมูลค่าประมาณ 190 ล้านปอนด์ (254 ล้านเหรียญสหรัฐ)
จอห์นสัน กล่าวว่า:
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เข้าร่วมกลุ่มเจ้าของของ คริสตัล พาเลซ สโมสรแห่งนี้มีประวัติ ความภาคภูมิใจ และรากฐานฟุตบอลแถบใต้ลอนดอน ซึ่งผมได้ชมมาตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหราชอาณาจักร ผมตื่นเต้นที่จะได้พบปะแฟน ๆ และรู้จักพวกเขา”
⚖️ ปัญหาสำหรับ พาเลซ ในระดับยุโรป
แม้สโมสรจะคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลก่อน ส่งผลให้คว้าสิทธิ์ไปแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่กลับถูกอีกรอบ “ดึงลง” ไปเล่นใน คอนเฟอเรนซ์ ลีก เนื่องจากขัดกับกฎของยูฟ่าเรื่อง “การถือหุ้นหลายสโมสร” โดยสาเหตุเพราะการถือหุ้นของ เทกซ์เตอร์ ในทั้ง พาเลซ และ โอลิมปิก ลียง
ปัจจุบัน พาเลซ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) โดยโต้แย้งว่าหลังจากการขายหุ้นให้ จอห์นสัน แล้ว ไม่มีความเชื่อมโยงกันอีกต่อไป Times
⏳ สิ่งที่จะสรุปต่อไป
-
ภาพรวมการซื้อหุ้น 43% จาก จอห์นสัน ยังต้องรอการอนุมัติจาก พรีเมียร์ลีก และ วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก ซึ่งไม่มีอุปสรรค
-
หากความคืบหน้าอุทธรณ์เป็นบวก, พาเลซ อาจได้กลับไปเล่น ยูโรปา ลีก แทนที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หรือ ลียง
-
ปัจจุบัน สตีฟ พาริช ประธานสโมสร ยืนยันจะเดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายและเชื่อมั่นว่าคำตัดสินของยูฟ่าไม่ยุติธรรม
✅ สรุป
-
จอห์นสัน กลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ คริสตัล พาเลซ หลังซื้อหุ้น 43% มูลค่า 190 ล้านปอนด์จาก เทกซ์เตอร์
-
เรื่องนี้มีผลต่อสิทธิ์ในการแข่งขันยุโรป เพราะขัดกับกฎถือหุ้นหลายสโมสรของยูฟ่า
-
สโมสรยื่นอุทธรณ์ต่อ CAS หวังเรียกกลับสถานะ “ยูโรปา ลีก” เมื่อขายหุ้นครบแล้ว
-
ทั้งหมดนี้เป็นช่วงสำคัญที่แฟน ๆ และผู้เกี่ยวข้องต้องติดตาม