7msport

“อลอนโซ่” ลั่นพร้อมพาทีมสู่ยุคใหม่ แย้มนโยบายเสริมทัพ, อนาคตเบลลิงแฮม-โรดรีโก้

บรรยากาศที่สนามซ้อมบัลเดเบบาสของ เรอัล มาดริด คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “ราชันชุดขาว” เมื่อวานนี้ (วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น) เกือบ 11 ปีหลังจากที่เขาลงสนามนัดสุดท้ายให้กับสโมสร อดีตจอมทัพทีมชาติสเปนกล่าวด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจว่า “ผมมีความสุขมากกับสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นบ้านของผม ความผูกพันกับมาดริดไม่เคยจางหายไป เมื่อผมกลับมาที่บัลเดเบบาสเมื่อชั่วโมงครึ่งที่แล้ว ความรู้สึกนั้นมันก็กลับมาอีกครั้ง”

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ได้กล่าวต้อนรับการกลับมาของอลอนโซ่ โดยเน้นย้ำถึงเส้นทางที่ถูกลิขิตไว้แล้ว “เราทุกคนรู้ดีว่าโชคชะตาของคุณจะเป็นอย่างไรนับตั้งแต่คุณเริ่มนั่งคุมทีมเยาวชน (Infantil A) ของเราในปี 2018”

อลอนโซ่ วัย 43 ปี ซึ่งแต่งกายอย่างสุภาพเรียบร้อยและพูดโดยไม่ใช้สคริปต์ ได้กล่าวถึงความทรงจำที่มีต่อ คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมคนก่อนหน้าที่เขาเข้ามาแทนที่ และเป็นคนที่เขาเคยร่วมงานด้วยทั้งที่มาดริดและบาเยิร์น มิวนิค โดยทั้งสองคนได้มีการติดต่อพูดคุยกันในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “บางที หากปราศจากความเชี่ยวชาญและการเรียนรู้ที่ผมได้รับจากเขา ผมคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่” อลอนโซ่กล่าว “ผมรับช่วงต่อมรดกนี้ด้วยเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง”

ก่อนหน้าการแถลงข่าว อลอนโซ่ได้มีพิธีเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ โดยถ่ายรูปร่วมกับประธานเปเรซและเสื้อแข่งมาดริดที่มีชื่อของเขา จากนั้นเขาได้บันทึกข้อความแรกถึงเหล่ามาดริดิสต้าในห้องที่เต็มไปด้วยถ้วยแชมเปียนส์ลีก โดยเลือกถ้วย “ลา เดซิม่า” (แชมป์สมัยที่ 10) เป็นฉากหลัง ซึ่งเป็นความสำเร็จที่พิเศษอย่างยิ่งสำหรับทุกคนในสโมสร และเป็นชัยชนะเหนือคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แอตเลติโก มาดริด อย่างสุดดราม่า 4-1 อลอนโซ่พลาดนัดชิงครั้งนั้นเนื่องจากติดโทษแบน แต่ภาพที่เขาวิ่งจากอัฒจันทร์ลงไปฉลองประตูกับเพื่อนร่วมทีมยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้

การเปิดตัวในฐานะผู้จัดการทีมครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามบาสเกตบอลบัลเดเบบาส โดยมีบุคคลสำคัญรายล้อมอลอนโซ่อย่างอบอุ่น รวมถึง นาโกเร่ ภรรยาของเขา, ทีมงานผู้ฝึกสอนของเขาประกอบด้วย เซบาส ปาร์ริญ่า (ผู้ช่วยโค้ช), อัลแบร์โต้ เอนซินาส (ผู้ช่วย), อิสมาเอล กาเมนฟอร์เต้-โลเปซ (ผู้ฝึกสอนด้านกายภาพ) และ เบนาต ลาไบเอน (นักวิเคราะห์ ซึ่งไม่ได้ร่วมงานกับเขาที่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) นอกจากนี้ยังมี อัลบาโร่ อาร์เบลัว เพื่อนสนิทของชาบี ซึ่งจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาคุมทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า (ทีมสำรอง) ในช่วงซัมเมอร์นี้, ซานติ โซลารี่ ผู้อำนวยการฟุตบอล และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ทูตสโมสร ขณะที่ ราอูล กอนซาเลซ ไม่ได้มาร่วมงาน แม้ว่าปกติเขาจะปรากฏตัวในงานลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขากำลังจะอำลาตำแหน่งหลังคุมทีมกาสตีย่ามา 6 ฤดูกาล

บรรยากาศในห้องแถลงข่าวที่บัลเดเบบาสสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของวันนี้สำหรับมาดริด มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบรรยากาศก่อนเกมแชมเปียนส์ลีกนัดสำคัญ โดยมีนักข่าวเข้าร่วมถึง 130 คน หลังจากการรอคอยที่นานกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย อลอนโซ่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับ เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ตำนานมาดริดและผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงทีมงานจากฝ่ายสื่อสารมวลชนอีกหลายคน อลอนโซ่เดินไปยังเก้าอี้ ปลดกระดุมสูท และกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะเริ่มตอบคำถาม เขาใช้เวลาในห้องแถลงข่าว 20 นาที ตอบคำถามไปทั้งสิ้น 19 คำถาม

หลายความคิดเห็นหลังจากนั้นพูดถึงรูปร่างที่ยังคงดูดีของอลอนโซ่ในวัยเพียง 43 ปี เขาถูกถามถึงอนาคตของ ลูก้า โมดริช ซึ่งมีอายุมากกว่าเขาเพียงสี่ปี และสัญญาของเขากำลังจะไม่ได้รับการต่อสัญญา กุนซือคนใหม่หลีกเลี่ยงที่จะให้ความชัดเจนว่าเขาได้ร้องขอให้สโมสรรั้งตัวกองกลางชาวโครเอเชียไว้หรือไม่ เขายังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่าจะใช้ระบบกองหลังสองหรือสามคน หรือจะเล่นด้วยกองหน้าสองหรือสามคน: “เป็นคำถามที่ดีครับ” เขากล่าวโดยไม่ได้ให้คำตอบ

แม้จะระมัดระวังในการตอบคำถามที่อาจจะ “ล่อเป้า” แต่เขาก็ได้ให้ประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงการที่เขามองว่า จู๊ด เบลลิงแฮม “แน่นอน” ว่าเป็นกองกลาง หรือการพูดถึง โรดรีโก้ หนึ่งในผู้เล่นที่อนาคตยังไม่แน่นอนในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยกล่าวว่า “เราต้องการเขา” และเขาจะพูดคุยกับนักเตะทุกคน

อลอนโซ่พูดถึงความกระตือรือร้นของสโมสรในตลาดซื้อขายนักเตะ “หน้าที่ของเราคือการต้องการพัฒนาในทุกๆ ด้านอยู่เสมอ” เขากล่าว “ผมต้องการมีการสื่อสารและวิสัยทัศน์ร่วมกับสโมสรเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ไม่ใช่ว่าผมมาพร้อมกับข้อเรียกร้อง แต่เป็นการทำงานเป็นทีมเพื่อพัฒนา” นั่นไม่ใช่คำพูดเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากช่วงสี่ปีที่ผ่านมาซึ่งคำขอของอันเชล็อตติแทบจะไม่ได้รับการตอบสนองจากบอร์ดบริหาร แต่ อลอนโซ่ได้ผลักดันให้มีการเซ็นสัญญากับ ดีน ฮุยเซน จาก บอร์นมัธ และการเจรจาคว้าตัว อัลบาโร่ การ์เรรัส จาก เบนฟิก้า แล้ว

“ผมต้องการให้คนที่เห็นเราพูดว่า ‘นี่คือทีมที่ผมชอบ’ ให้ผู้คนเข้ามาในสนามเพื่อสนุกกับเกม” เขากล่าวปิดท้าย แต่หลังจากคำพูด ก็ถึงเวลาของการพิสูจน์ด้วยผลงานจริงในสนาม