7msport

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จัดการต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ลูคัส เบิร์กวัลล์ กองกลางดาวรุ่งชาวสวีเดน ออกไปจนถึงปี 2031 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบิร์กวัลล์ ปฏิเสธข้อเสนอจาก บาร์เซโลน่า เพื่อย้ายมาร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” จาก เยอร์การ์เดนส์ ในลีกสวีเดน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญาเบื้องต้น 5 ปี แต่เพิ่งจะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน การต่อสัญญาครั้งนี้เป็นการขยายข้อผูกมัดเดิมออกไปอีก 2 ปี

ฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจในช่วงปรีซีซั่น ทำให้สโมสรเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าเขาจะสามารถสอดแทรกขึ้นมามีบทบาทในทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ อันเก้ ปอสเตโคกลู ได้ หลังจากได้รับโอกาสลงเล่นใน ยูโรปาลีก และฟุตบอลถ้วยในประเทศช่วงแรก ดาวเตะทีมชาติสวีเดนก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 11 นัด และลงสนามรวมทั้งหมด 27 นัด

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แข้งวัย 19 ปี สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางได้ก่อนหน้าผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่าง อีฟส์ บิสซูม่า และ ป๊าป ซาร์ ซึ่งสัญญาฉบับใหม่นี้สะท้อนให้เห็นว่าเขาทำผลงานได้ “เกินความคาดหมาย” มากเพียงใดในฤดูกาลนี้

เบิร์กวัลล์: พรสวรรค์แห่งยุค

พัฒนาการของ เบิร์กวัลล์ ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องราวเชิงบวกสำหรับ สเปอร์ส ในฤดูกาลที่ยากลำบากนี้ เขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าเป็นครั้งคราวในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่ก็ยังมีจังหวะที่ดูดิบและประสบการณ์น้อยอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เบิร์กวัลล์ ก็มุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง สร้างความแข็งแกร่งทางร่างกาย และปรับตัวเข้ากับความต้องการในการเล่นระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าเมื่อสามปีก่อน เขายังเล่นอยู่ในลีกระดับสองของสวีเดนอยู่เลย

ช่วงเวลาแจ้งเกิดของ เบิร์กวัลล์ เกิดขึ้นในเดือนมกราคม ในศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเขายิงประตูชัยในช่วงท้ายเกม นับตั้งแต่นั้นมา เขาก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผงกองกลางที่แข็งแกร่งที่สุดของ ปอสเตโคกลู ร่วมกับ โรดริโก้ เบนตานกูร์ และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ หรือ เจมส์ แมดดิสัน การที่เขาได้ลงเป็นตัวจริงทั้งสองนัดในเกมสำคัญอย่าง ยูโรปาลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต คือเครื่องยืนยันถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของเขา

เบิร์กวัลล์ คือผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูงส่งอย่างแท้จริง และเพิ่งจะอายุครบ 19 ปีไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สเปอร์ส ย่อมยินดีอย่างยิ่งที่สามารถรั้งตัวเขาไว้กับทีมได้ในระยะยาว เขาคือ “เพชรเม็ดงามแห่งยุค” (generational talent) ที่สโมสรควรจะสร้างทีมโดยมีเขาเป็นศูนย์กลางในทศวรรษหน้า