7msport

สัญญาณดี? “เคียซ่า” เผยเหตุผลห้องแต่งตัว “หงส์แดง” เงียบสนิทหลังแพ้ 4 นัดรวด

ความพ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกัน คือสถานการณ์ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลไม่คุ้นเคยในรอบหลายปีที่ผ่านมา และความพ่ายแพ้ล่าสุดต่อ เบรนท์ฟอร์ด ก็ได้ตอกย้ำถึง “ภาวะไร้ทิศทาง” ที่กำลังเกาะกุมทีมแชมป์เก่าอยู่ในขณะนี้ แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่มืดมนนั้น เฟเดริโก้ เคียซ่า กลับมองเห็น “สัญญาณบวก” ในปรากฏการณ์ที่น่ากังวลที่สุด… นั่นคือ “ความเงียบ” ในห้องแต่งตัว

ในขณะที่หลายคนคาดหวังจะได้เห็นการโวยวาย, การชี้หน้ากล่าวโทษ หรือการปลุกใจอย่างดุเดือด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องแต่งตัวทีมเยือนที่ จีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม กลับมีเพียงความเงียบสงัด

ไม่มีใครพูดอะไรเลย” เคียซ่ากล่าว “เพราะหลังจากนั้น ทุกคนต่างก็รู้ดี บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องพูดถึงสถานการณ์นั้น คุณก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

นี่คือคำกล่าวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มันไม่ใช่ความเงียบแห่งการยอมจำนน แต่คือความเงียบแห่ง “การไตร่ตรอง”

“การที่ไม่มีใครพูดอะไรเลยหลังเกมมันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะมันเป็นสัญญาณว่าทุกคนต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง” เคียซ่าวิเคราะห์ “เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือการทุ่มเทให้มากขึ้น, ซ้อมให้หนักขึ้น”

บททดสอบที่รออยู่ และโอกาสของคลื่นลูกใหม่ โอกาสแรกในการ “เปลี่ยนแปลง” ที่ว่านั้น จะมาถึงในค่ำคืนวันพุธนี้ (29 ตุลาคม 2025) ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 กับ คริสตัล พาเลซ คู่ปรับที่ลิเวอร์พูลเพิ่งจะพลาดท่าพ่ายแพ้มาในลีกเมื่อเดือนก่อน

นี่คือเกมที่ อาร์เน่ สล็อต อาจไม่มีทางเลือกมากนักในการจัดทัพ เมื่อรายชื่อนักเตะบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว (อิซัค, กราเฟนแบร์ก, อลีสซง, ฟริมปง, เลโอนี่ และล่าสุดคือ เคอร์ติส โจนส์) นี่อาจเป็นโอกาสสำคัญที่เหล่าดาวรุ่งอย่าง เฟรดดี้ วู้ดแมน (ผู้รักษาประตูที่มีโอกาสเดบิวต์), คีแรน มอร์ริสัน หรือ เวลลิตี้ ลัคกี้ จะได้ก้าวขึ้นมาแสดงฝีมือ

เคียซ่าพร้อมลุย ไม่หวั่น “บอลยาว” และในฐานะหนึ่งในผู้เล่นซีเนียร์ที่ต้องก้าวขึ้นมาแบกทีมในยามวิกฤต เคียซ่าก็แสดงความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม และไม่หวั่นไหวกับแท็กติก “บอลยาว” หรือ “ลูกทุ่มไกล” ที่พาเลซเคยใช้เล่นงานพวกเขามาแล้ว

“เรามีผู้เล่นระดับโลกที่สามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์” เขากล่าวอย่างมั่นใจ “ถ้า คริสตัล พาเลซ อยากจะเล่นบอลยาวหรือทุ่มไกล พวกเขาก็ยินดีต้อนรับเลย เพราะเราจะตอบโต้พวกเขาด้วยความเข้มข้นที่สูงกว่า, การเอาชนะในการดวล และพยายามคว้าชัยชนะให้ได้

“ที่อิตาลี เรามีคำพูดว่า ‘ชัยชนะนำมาซึ่งชัยชนะ’ (Winning brings winning) ดังนั้น เราต้องการชัยชนะ แค่นั้นเลย”

จากนักเตะที่แทบไม่มีส่วนร่วมในฤดูกาลที่แล้ว (ลงเล่นเพียง 466 นาที) เคียซ่าในวัย 28 ปี กำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้นำทั้งในและนอกสนามของทีมชุดนี้ (5 ประตูรวมแอสซิสต์ จาก 245 นาที) เขากำลังใช้ “ความเป็นผู้ใหญ่” และ “ประสบการณ์” ในการประคองทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อย และหวังว่า “ความเงียบ” ที่เกิดขึ้นในห้องแต่งตัว จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “เสียงคำราม” ที่ดังกระหึ่มอีกครั้งในแอนฟิลด์