ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ได้เกิดรอยร้าวครั้งสำคัญขึ้นในวงการฟุตบอล เมื่อ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวด้วยการไม่เข้าร่วมการแข่งขันตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความตึงเครียดที่กำลังคุกรุ่นระหว่าง ยูฟ่า และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
ในขณะที่ประธานของสมาพันธ์ฟุตบอลอื่นๆ ต่างเดินทางมาร่วมงาน แต่การหายไปของ เซเฟริน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานฟีฟ่าด้วยนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจน
แหล่งข่าววงในระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของยูฟ่ากำลังกังวลอย่างยิ่งต่อการที่ฟีฟ่าพยายามจะเข้ามา “รุกล้ำ” การแข่งขันในระดับสโมสร โดยเฉพาะความพยายามที่จะขยายการแข่งขัน คลับ เวิลด์ คัพ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความยิ่งใหญ่ของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในอนาคต
ความกังวลนี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า ปฏิเสธที่จะตัดความเป็นไปได้ในการเพิ่มทีมจากยุโรปในการแข่งขันครั้งต่อไป และยังหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าจะจัดการแข่งขันทุกๆ 2 ปีหรือไม่
แม้ อินฟานติโน่ จะชูความสำเร็จด้านการเงินของทัวร์นาเมนต์ที่สร้างรายได้มหาศาล แต่ทางฝั่งยูฟ่ากลับมองว่านี่คือความพยายามที่จะเข้ามาท้าทายอำนาจของพวกเขาโดยตรง ความขัดแย้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องประชุม แต่ยังปรากฏให้เห็นจากการที่บัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของยูฟ่า ไม่มีการกล่าวถึงหรือโปรโมตการแข่งขัน คลับ เวิลด์ คัพ เลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่มีทีมจากยุโรปเข้าร่วมถึง 12 ทีม และยังเป็นคู่ชิงชนะเลิศกันเองอีกด้วย
เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงรอยร้าวที่เคยเกิดขึ้นในที่ประชุมสภาฟีฟ่าเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่สมาชิกของยูฟ่าพร้อมใจกันเดินออกจากห้องประชุมเพื่อประท้วงการมาสายของ อินฟานติโน่ ซึ่งทั้งหมดนี้คือสัญญาณของ “สงครามเย็น” ระหว่างสององค์กรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกฟุตบอล ที่กำลังจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเกมลูกหนังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้