7msport

ลิเวอร์พูล อาจได้เปรียบในดีล ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ หลังนักเตะเปรยอยาก “เปิดประสบการณ์ใหม่”

Liverpool

ในช่วงที่ข่าวลือการย้ายทีมของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล อาจถือไพ่เหนือกว่า บาเยิร์น มิวนิค อยู่เล็กน้อย หลังจากที่ดาวเตะวัย 22 ปีเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขามีความสนใจในการ “ออกจากพื้นที่ปลอดภัย” เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ในอาชีพค้าแข้งของตน

อย่างไรก็ตาม แข้งตัวรุกจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก็ยังไม่ต้องการพูดมากเกี่ยวกับอนาคตในช่วงก่อนตลาดนักเตะเปิด ตามรายงานจาก The Athletic มีการระบุว่า ลิเวอร์พูล ได้มีการพบปะกับตัวนักเตะ รวมถึง ฮันส์-โยอาคิม และ คารีน เวิร์ตซ์ ซึ่งเป็นพ่อแม่และยังทำหน้าที่เอเยนต์ของเขาอีกด้วย ในการเดินทางสั้น ๆ ที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยว่า หงส์แดง ให้ความสนใจในตัวนักเตะรายนี้มาอย่างยาวนาน และพร้อมจะเดินหน้าเจรจาดีลที่อาจมีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านปอนด์

ผลงานอันยอดเยี่ยมกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ เวิร์ตซ์ ตกเป็นที่หมายตาของทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นสองทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปที่พร้อมทุ่มทุนล่าลายเซ็นแข้งรายนี้

โดยเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sports Illustrated Deutschland เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพูดถึงกระแสข่าวการย้ายทีมว่า


“ผมถือว่าโชคดีมากที่มีสโมสรระดับท็อปอยู่ใกล้บ้าน และได้ลงเล่นให้กับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของทั้งเยอรมนีและยุโรปในตอนนี้”

“ผมรู้สึกชื่นชมเพื่อนร่วมทีมหลายคนใน เลเวอร์คูเซ่น ที่ต้องจากครอบครัวจากอเมริกาใต้หรือแอฟริกามาเริ่มต้นใหม่ที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

“แต่สำหรับผมเอง ผมก็รู้สึกว่า การออกจากพื้นที่ปลอดภัยเพื่อพบกับสิ่งใหม่ ๆ เป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน” เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเสริมว่า “ผมรู้ดีว่าห้องแต่งตัวในทีมฟุตบอลเป็นอย่างไร และผมมั่นใจว่าผมสามารถปรับตัวเข้ากับทุกที่ได้ไม่ยาก”


คำพูดดังกล่าวมีนัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมที่อยู่ในลีกเดียวกับเขา และหาก เวิร์ตซ์ ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ การย้ายไปอยู่กับทีมจากอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็อาจเป็นทางเลือกที่เขามองไว้

แต่สิ่งที่อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ของ ลิเวอร์พูล คือการต้องต่อกรกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งกำลังมองหาแข้งที่จะเข้ามาแทนที่ เควิน เดอ บรอยน์ และหากคว้าตัว เวิร์ตซ์ ได้สำเร็จ พวกเขาอาจกลายเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกที่น่ากลัวขึ้นอีกขั้น

อย่างไรก็ตาม เวิร์ตซ์ เองก็ยังไม่ต้องการให้ความสนใจไปกับกระแสข่าวลือมากนัก โดยเขายืนยันว่า


“ผมเห็นโพสต์เกี่ยวกับผมในโซเชียลมีเดียตลอด บางครั้งผมก็ขำกับสิ่งที่คนพูดกันว่า ผมจะไปเล่นให้ทีมไหนในฤดูกาลหน้า”

“จริง ๆ แล้วไม่มีใครรู้นอกจากผมเอง เพราะฉะนั้นผมไม่ให้ค่ากับข่าวพวกนั้นมากนัก และพยายามมองทุกอย่างแบบสบาย ๆ”

แต่หากการพบปะกับครอบครัวของเขาในอังกฤษเกิดขึ้นจริง ก็คงต้องบอกว่า “การกระทำ” นั้นดังกว่า “คำพูด” อย่างชัดเจน