โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ออกมากล่าวอ้างว่า “ความผิดพลาดของผู้ตัดสิน” คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้สโมสรต้องพลาดการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้
อินเตอร์ มิลาน เป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะ บาร์เซโลน่า ไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 7-6 ในเกมรอบรองชนะเลิศที่ดราม่าสุดขีด โดยเกมนัดที่สองที่ ซาน ซิโร่ จบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ใน 90 นาที ก่อนที่ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ จะมายิงประตูชัยให้ “งูใหญ่” ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
❗️Joan Laporta: “We are not in the final because of the referee’s decisions.” pic.twitter.com/cTb0x7qMvJ
— Barça Universal (@BarcaUniversal) May 7, 2025
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อของสโมสรเมื่อวันพุธ ลาปอร์ต้า กล่าวถึงความพ่ายแพ้ว่า: “มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นเมื่อคืนนี้ เราสู้แล้ว แต่สุดท้ายเราก็ทำไม่ได้ เราไม่ได้อยู่ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก โดยพื้นฐานแล้ว เป็นเพราะความผิดพลาดของผู้ตัดสินที่ส่งผลเสียต่อเรา แต่มันต้องทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”
“แฟนบอลกว่า 4,000 คนที่เดินทางไป มิลาน สมควรได้รับทุกสิ่ง เช่นเดียวกับทุกคนที่ช่วยเรามาตลอดทั้งฤดูกาล เราทุกคนต้องช่วยพวกเขาต่อไปในตอนนี้ และทำให้พวกเขากลับมามีทัศนคติที่ดีที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ ลา ลีกา”
“เราจะกลับมาใน แชมเปี้ยนส์ลีก และเราจะต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังความพ่ายแพ้เมื่อคืน เพราะเราเข้าใกล้มากแล้ว”
มีจังหวะการตัดสินหลายครั้งในเกมเมื่อวันอังคารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝั่งผู้เล่น บาร์ซ่า รวมถึงการเรียกร้องเอาจุดโทษสองครั้งในครึ่งแรก ก่อนที่ อินเตอร์ จะมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เปา คูบาร์ซี่ ทำฟาวล์ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (ซึ่งผู้ตัดสิน ซีมอน มาร์ซีเนียค เปลี่ยนคำตัดสินหลังดู VAR) นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่ ลามีน ยามาล ถูก เฮนริค มคิทาร์ยาน ทำฟาวล์ ซึ่ง VAR ชี้ว่าเป็นการฟาวล์นอกเขตโทษ แม้จะดูเหมือนว่าการฟาวล์ต่อเนื่องเข้ามาในเขตโทษก็ตาม
ฮันซี่ ฟลิค ผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า ก็ได้แสดงความผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินหลังจบเกมเช่นกัน โดยกล่าวว่า “ผมไม่อยากพูดถึงผู้ตัดสิน แต่ทุกจังหวะ 50/50 มันเข้าทางพวกเขาหมด”
บาร์เซโลน่า จะกลับมาลงสนามในวันอาทิตย์นี้ โดยจะเปิดศึก เอล กลาซิโก้ กับ เรอัล มาดริด ซึ่งพวกเขานำอยู่ 4 คะแนนบนตาราง ลา ลีกา ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 4 นัด