7msport

เวย์น รูนี่ย์ ตำนานดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายกย่องฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตู อินเตอร์ มิลาน หลังจากที่นายทวารชาวสวิสช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ บาร์เซโลน่า ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง อันสุดแสนวุ่นวายและดราม่า

แม้ว่าเกมจะจบลงด้วยชัยชนะของ อินเตอร์ ด้วยสกอร์รวม 7-6 หลังจากต่อเวลาพิเศษ โดยมีประตูเกิดขึ้นมากมาย แต่ฟอร์มการเซฟอันเหนียวหนึบของ ซอมเมอร์ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ “งูใหญ่” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

นายทวารทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์โชว์ฟอร์มเซฟไปถึง 7 ครั้งตลอด 120 นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิเสธลูกยิงของ ลามีน ยามาล ถึงสองครั้งด้วยการพุ่งปัดสุดตัว และยังโชว์ซูเปอร์เซฟจากลูกยิงระยะเผาขนของ เอริค การ์เซีย อีกด้วย

“ฟอร์มการเล่นของเขาระดับท็อปคลาส และเขาสมควรได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์อย่างเต็มที่” รูนี่ย์ กล่าวกับ Amazon Prime เมื่อถูกถามถึงฟอร์มของ ซอมเมอร์ “นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการเมื่อคุณพยายามจะคว้าถ้วยรางวัลและไปให้ถึงรอบชิงชนะเลิศ คุณต้องการผู้รักษาประตูของคุณให้ก้าวขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญและโชว์เซฟสำคัญๆ และนั่นคือสิ่งที่เขาทำ บางคนอาจจะบอกว่านั่นคืองานของเขาและเขาต้องเซฟบอลอยู่แล้ว แต่มันคือจำนวนการเซฟตลอดทั้งสองเลกต่างหาก”

ด้าน ซอมเมอร์ เองก็แทบจะหาคำพูดมาบรรยายไม่ถูกหลังจบเกมสุดดราม่า “มันเป็นเกมที่บ้าคลั่งมาก ผมภูมิใจในทีมนี้จริงๆ และวิธีการเล่นของเรา” เขากล่าว “เราเกือบจะตกรอบไปแล้ว แต่เราก็กลับมาได้ – มันน่าทึ่งมาก มันมีความหมายมาก คุณไม่มีโอกาสบ่อยนักที่จะได้เข้าชิงชนะเลิศ เรารู้ว่าในช่วงสี่นาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษมันคือโอกาสสุดท้ายของเราที่จะผ่านเข้ารอบ เราทุ่มเททุกอย่างในสนามร่วมกับแฟนๆ และตอนนี้เรามีความสุขมาก”

ขณะเดียวกัน คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ อดีตกองกลาง อินเตอร์ มิลาน ก็ไม่ลืมที่จะกล่าวชื่นชม มาร์คัส ตูราม กองหน้า อินเตอร์ ที่สร้างสรรค์จังหวะสุดยอดจนนำไปสู่ประตูชัยของ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ “เขาเป็นคนที่น่าทึ่งมาก และผมบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเองให้มากกว่านี้” อดีตมิดฟิลด์ อินเตอร์ กล่าวเสริม “ผมรู้เรื่องราวเบื้องหลังของเขานิดหน่อยเพราะผมสนิทกับพ่อของเขา ลิลิยง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเก่งแค่ไหน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมฟอร์มเขาถึงขึ้นๆ ลงๆ แต่ผมบอกเขาว่าคุณสามารถแบกทีมไว้บนบ่าได้เลยถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้อีกหน่อย”