จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของยุคใหม่สำหรับ เรอัล มาดริด อาจมาพร้อมกับความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวด…
ความพ่ายแพ้ย่อยยับ 4-0 ต่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึกสโมสรโลกรอบรองชนะเลิศ ได้รีเซ็ตทุกอย่างให้กลับมาสู่จุดเริ่มต้น ชาบี อลอนโซ่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ยืนยันว่านั่นคือจุดสิ้นสุดของฤดูกาลที่แล้ว และจากนี้ไป ทุกอย่างจะถูกตัดสินว่าทีมจะพัฒนาได้เร็วแค่ไหน และปรับตัวเข้ากับแนวคิดใหม่ของเขาได้เร่งด่วนเพียงใด
อลอนโซ่ ผู้เคยผ่านการร่วมงานกับกุนซือระดับตำนานอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, โชเซ่ มูรินโญ่ และ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ซึมซับบทเรียนจากทุกแขนงปรัชญา และตอนนี้เขาก็มาถึง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว พร้อมกับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต
แท็กติกของเขาได้เผยให้เห็นแล้ว: มาดริดจะเล่นฟุตบอลที่เน้นตำแหน่งการยืนมากขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์สมัยใหม่ ที่ซึ่ง “ปัจเจกบุคคลต้องเสียสละอัตตาเพื่อส่วนรวม”
ระบบเพรสซิ่งสูงไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแย่งบอลกลับคืนมาเท่านั้น แต่ยังเพื่อลดภาระเกมรับของ วินิซิอุส จูเนียร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ด้วย แต่คำถามสำคัญก็เกิดขึ้น: สำหรับสโมสรที่เชิดชูพรสวรรค์ส่วนบุคคลมาโดยตลอด เหล่าซูเปอร์สตาร์จะยอมรับได้หรือไม่ว่า “ทีมต้องมาก่อน”? และถ้าพวกเขาไม่ยอม อลอนโซ่จะกล้าพอที่จะดร็อปพวกเขานั่งสำรองหรือไม่?
วินิซิอุส และ เอ็มบัปเป้: การสร้างสมดุลที่ท้าทาย
เคมีระหว่าง วินิซิอุส และ เอ็มบัปเป้ ไม่ได้เข้ากันเสมอไปทั้งในและนอกสนาม อลอนโซ่ต้องทำให้แน่ใจว่าอัตตาของทั้งสองคนจะดึงทีมไปข้างหน้า แทนที่จะฉุดรั้งกันเอง
เบลลิงแฮม และ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
อลอนโซ่ต้องการจำกัดบทบาทของ จู๊ด เบลลิงแฮม ให้แคบลง โดยให้เขาอยู่ใกล้กับกรอบเขตโทษและกองหน้าสองคนมากขึ้น เพื่อดึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขากลับมา ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ต้องเผชิญกับการต่อสู้แย่งตำแหน่งกับ ดานี่ การ์บาฆาล
ชีวิตหลัง โครส
การแทนที่ โทนี่ โครส ต้องใช้ผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคน ดีน ฮุยเซน จะกลายเป็นหัวใจในการสร้างเกมจากแดนหลัง, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ จะมอบความหลากหลาย และ อาร์ด้า กูแลร์ ก็ถูกปรับบทบาทมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอาชีพของเขา
นี่คือยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นและท้าทายอย่างยิ่งของ “ราชันชุดขาว” ที่ซึ่งความสำเร็จของทีมจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมหัศจรรย์ของใครคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวของทุกคนในสนาม