อเล็กซ์ มาร์เกซ ไม่สามารถเฉลิมฉลองการคว้าโพเดี้ยมอันดับ 3 ของตนเองที่สนามมันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ลง หลังจากที่ใจของเขาจดจ่ออยู่กับอาการบาดเจ็บของ มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายและแชมป์โลกคนล่าสุด ที่พลาดล้มอย่างรุนแรงในรอบแรกของการแข่งขัน โดยเจ้าตัวได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนถึงมาตรฐานความปลอดภัยของสนาม ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของอุบัติเหตุในครั้งนี้
ทันทีที่จบการแข่งขันและได้ทราบข่าวจากคุณพ่อว่าพี่ชายได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ข้างเดิม อเล็กซ์ก็แสดงความไม่พอใจออกมาทันทีในห้องพักนักบิด ขณะที่ดูภาพรีเพลย์การล้มของพี่ชายร่วมกับ เฟอร์มิน อัลเดเกอร์ และ เปโดร อคอสต้า
“พวกคุณเห็นสภาพบ่อกรวดนั่นไหม? มันห่วยแตกสิ้นดี!” อเล็กซ์กล่าวอย่างหัวเสีย “มันเป็นแบบนี้เสมอ ต้องรอให้มีเรื่องเกิดขึ้นก่อน ถึงจะมีการแก้ไข มันมีหินก้อนใหญ่ๆ เต็มไปหมด เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่เจ็บตัว”
เขาได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาเชิงเทคนิคว่า “มันมีลักษณะเหมือน ‘สันขอบ’ ระหว่างพื้นปูนกับบ่อกรวด ซึ่งมันดีดให้รถลอยขึ้นไปในอากาศ และเมื่อคุณล้มด้วยความเร็วขนาดนั้น สิ่งที่นักบิดต้องการคือการชะลอความเร็ว แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาลอยขึ้น”
อเล็กซ์ได้เรียกร้องให้ผู้จัดการแข่งขันใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปฏิทินการแข่งขันอัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักบิดทุกคน
“ผมไม่มีความสุขได้หรอก เราต้องใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ให้มากขึ้น” เขากล่าวต่อ “การแข่งขัน 22 สนาม หมายถึงการออกสตาร์ท 44 ครั้ง (รวมสปรินท์เรซ) มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่มีคนเจ็บเยอะขึ้น ผู้คนบาดเจ็บกันมากขึ้น เราต้องการสร้างโชว์ แต่เราก็ต้องได้รับการปกป้องที่ดีกว่านี้”
สำหรับผลงานของตัวเองที่จบในอันดับ 3 เขากล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เสียอันดับ 2 ให้กับ เปโดร อคอสต้า ในช่วงท้าย “น่าเสียดายที่เสียอันดับสองให้เปโดร แต่ผมหมดแรงแล้ว ผมไม่มีอะไรเหลือแล้ว”
คำพูดทั้งหมดของ อเล็กซ์ มาร์เกซ ในวันนี้ ได้ส่งสาส์นที่ชัดเจนและทรงพลังไปยังผู้จัดโมโตจีพีว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์น่าสลดใจไปมากกว่านี้