ตอนนี้ดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเจออุปสรรคแบบเดียวกับที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เคยประสบ ในความพยายามคว้าตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ กองหน้าคนสำคัญของ เบรนท์ฟอร์ด
ก่อนหน้านี้ เอ็มเบวโม่ เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ตอนนี้โอกาสที่จะเห็นเขาย้ายไปอยู่ในถิ่น เซนต์เจมส์พาร์ก แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
นิวคาสเซิล มองว่าค่าตัวของแนวรุกทีมชาติ แคเมอรูน รายนี้สูงเกินไป จึงตัดสินใจยุติความสนใจไปในที่สุด
เอ็มเบวโม่ อยากซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ต้นสังกัดตั้งค่าตัวโหด
แม้ว่า ไบรอัน เอ็มเบวโม่ แสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็มีแนวโน้มว่า “ปีศาจแดง” กำลังจะได้ข้อสรุปแบบเดียวกับที่ นิวคาสเซิล เคยได้มาก่อนหน้านี้
รายงานจาก GIVEMESPORT ระบุว่า ฝ่ายบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต้องการจ่ายเงินเกินความเหมาะสมเพื่อคว้าตัวแนวรุกของ เบรนท์ฟอร์ด หลังจากข้อเสนอ 2 รอบก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธไปแล้ว
โดยข้อเสนอล่าสุดที่มีมูลค่า 55 ล้านปอนด์ บวกโบนัสเพิ่มเติมอีก 7.5 ล้านปอนด์ ก็ยังถูก เบรนท์ฟอร์ด ปัดทิ้ง และสโมสรยืนยันว่า เอ็มเบวโม่ ยังอาจอยู่ค้าแข้งกับทีมต่อไป
แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมล้มดีลหากข้อเสนอรอบถัดไปโดนปฏิเสธอีก
แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า หากข้อเสนอครั้งต่อไปยังถูกปฏิเสธอีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็พร้อมจะถอนตัวจากการเจรจา เพราะไม่อยากจ่ายเกินมูลค่าที่ควรจะเป็น
บอร์ดบริหารมองว่าการยอมจ่ายค่าตัวสูงเกินจริงอาจส่งผลเสียในระยะยาว และส่งสัญญาณที่ไม่ดีไปยังสโมสรอื่นในการเจรจาซื้อตัวนักเตะรายต่อไป
นิวคาสเซิล ไม่เสียใจที่ยกเลิกแผนล่าตัว เอ็มเบวโม่
แน่นอนว่าหากคว้าตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ได้สำเร็จ จะเป็นการเสริมทัพชั้นเยี่ยมให้กับทีมของ เอ็ดดี ฮาว โดยเฉพาะกับสถิติ 20 ประตูในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าโดดเด่นอย่างยิ่งสำหรับนักเตะในวัย 25 ปี
แต่สำหรับ นิวคาสเซิล แล้ว พวกเขาไม่ต้องการตกอยู่ในสถานการณ์ยืดเยื้อแบบปีที่แล้วอีกครั้ง เหมือนที่เกิดขึ้นกับดีลของ มาร์ค เกฮี ซึ่งสุดท้ายก็ล้มเหลวและทีมไม่มีแผนสำรองทันเวลา
ปัจจัยสำคัญคือค่าตัวและค่าเหนื่อยของ เอ็มเบวโม่
แม้ว่า เอ็มเบวโม่ จะเป็นนักเตะที่หลายทีมต้องการ แต่ เบรนท์ฟอร์ด เองก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบขายเขา ขณะที่นักเตะก็เรียกร้องค่าเหนื่อยในระดับที่สูง ทำให้ดีลนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค
เมื่อมีทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาร่วมวงด้วย ยิ่งทำให้ดีลนี้มีแนวโน้มจะกลายเป็น “มหากาพย์” ที่ใช้เวลานาน และอาจจบลงแบบที่ไม่มีใครคาดคิด