ในโลกของฟุตบอลสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด ชื่อของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ปราการหลังทีมชาติโครเอเชียของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและอนาคตของวงการ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 77 ล้านปอนด์ ที่ทำให้เขากลายเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์
แต่ใครจะเชื่อว่า เส้นทางสู่จุดสูงสุดนี้ เกือบจะมีจุดเปลี่ยนที่หักเหชีวิตเขาไปตลอดกาล
ปราการหลังวัย 23 ปี เปิดเผยกับ BBC Sport ถึงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิต เมื่อครั้งยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 16 ปี ในอคาเดมี่ของ ดินาโม ซาเกร็บ สโมสรยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิด
“ผมเคยคิดที่จะเลิกเล่นฟุตบอล” กวาร์ดิโอลย้อนความหลัง “ผมชอบบาสเกตบอลเหมือนกัน”
จุดเริ่มต้นของความลังเล เกิดขึ้นจากสิ่งที่นักฟุตบอลเยาวชนทุกคนกลัวที่สุด นั่นคือ “การขาดโอกาส” เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหาตำแหน่งในทีมเยาวชนของซาเกร็บ และเมื่อมองไปรอบตัว เขาเห็นเพื่อนๆ ของเขาต่างมีความสุขกับการเล่นบาสเกตบอล
“ผมไม่มั่นใจในเส้นทางฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว คุณเข้าใจไหม? เมื่อคุณไปที่สนามซ้อม แต่คุณกลับไม่มีความสุขอีกต่อไป”
“ผมแค่พยายามหาทางออกอื่น และพยายามรู้สึกมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเพื่อนๆ ของผมทุกคนกำลังเล่นบาสเกตบอล”
โชคดีที่ กวาร์ดิโอล เลือกที่จะ “อดทนรอ” และสู้ต่อ เขาบ่มเพาะฝีเท้าจนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของดินาโม ซาเกร็บ คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะย้ายไปแจ้งเกิดเต็มตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (สถิตินักเตะโครแอตวัยทีนที่แพงที่สุด) และฟอร์มอันยอดเยี่ยม 2 ฤดูกาลในบุนเดสลีกา ก็เพียงพอที่จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมทุ่มเงินมหาศาลคว้าตัวเขามา
“ความฝันของผมคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้” กวาร์ดิโอลกล่าว “ถ้าคุณย้อนไป 5 ปีแล้วถามผมว่า ‘คุณเห็นตัวเองที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2023, 24, 25 ไหม?’ ผมคงตอบว่า ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เลย”
จากเด็กหนุ่มที่เกือบหมดไฟ วันนี้เขากลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้ฤดูกาล 2023-24 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ “เรือใบสีฟ้า” (เป็นฤดูกาลแรกที่ไร้ถ้วยรางวัลนับตั้งแต่ 2016-17) และตัวเขาเองต้องลงเล่นอย่างหนักหน่วง (กว่า 6,000 นาทีให้สโมสรและทีมชาติ) แถมยังถูกโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ไม่คุ้นเคย
แต่ในฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ ดูเหมือนจะกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง และส่วนสำคัญคือการที่ กวาร์ดิโอล ได้กลับมายืนในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายที่เขาถนัด
“ผมมีความสุขที่ได้กลับมาเล่นในตำแหน่งของผม” เขากล่าว “แค่เล่นให้ง่าย ปกป้องประตู ป้องกันประตู”
เอลเลน ไวท์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษและแมนฯ ซิตี้ วิเคราะห์ว่า การกลับมาของ กวาร์ดิโอล ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง คือกุญแจสำคัญที่ทำให้แนวรับของซิตี้แข็งแกร่งขึ้นในฤดูกาลนี้ “สถิติมันฟ้องด้วยตัวมันเอง ตอนนี้พวกเขาเสียประตูน้อยลง และเผชิญหน้ากับการยิงน้อยลง”
จากเด็กหนุ่มที่เกือบจะโยนรองเท้าสตั๊ดทิ้งเพื่อไปจับลูกบาสเกตบอล สู่การเป็นหัวใจในแนวรับของหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เรื่องราวของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า บางครั้ง ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อาจอยู่ห่างจาก “การยอมแพ้” เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น