ลิเวอร์พูลกลับมาลงสนามอีกครั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการเอาชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ไป 3-1 แต่นี่คือเกมที่ฟุตบอลอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะทุกสายตาและทุกหัวใจของทีม, สตาฟฟ์ และแฟนบอล ต่างมุ่งไปที่การรำลึกถึง ดิโอโก้ โชต้า และน้องชายของเขา… และนี่คือ 3 สิ่งที่เราได้เห็นจากเกมแรกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกนี้
ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เกมที่สนามดีพเดลถือเป็นก้าวแรกที่ยากลำบากแต่ก็สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมของ อาร์เน่ สล็อต และแม้ว่านักเตะใหม่อย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะยังไม่ถูกส่งลงสนาม แต่เราก็ได้เห็นแง่มุมที่น่าสนใจหลายอย่างจากเกมนี้
1. มิติใหม่จากฟูลแบ็กจอมบุก แฟนบอลได้เห็นฟอร์มของสองฟูลแบ็กคนใหม่อย่าง เฌเรมี่ ฟริมปง และ มิรอส เคอร์เคซ เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ได้รับอิสระในการเติมเกมรุกอย่างเต็มที่ โดย เคอร์เคซ ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษในครึ่งหลังและประสานงานกับ โคดี้ กัคโป ได้อย่างลงตัว ขณะที่ ฟริมปง ก็แสดงให้เห็นถึงความเร็วในการวิ่งกลับมาช่วยเกมรับ นี่คือมิติใหม่ในตำแหน่งฟูลแบ็กที่แตกต่างไปจากยุคของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อย่างชัดเจน
2. อนาคตที่ไม่แน่นอนของตำแหน่งหมายเลข 9 ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้ายังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ โดยในเกมนี้ เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ดาร์วิน นูนเญซ ได้แบ่งหน้าที่กันลงเล่น ซึ่งทั้งสองคนต่างก็มีส่วนร่วมกับประตูของทีม เคียซ่าเป็นคนเปิดบอลให้เพื่อนก่อนจะนำไปสู่ประตูแรก ขณะที่ นูนเญซ ก็ใช้ความเร็วฉกบอลเข้าไปยิงประตูที่สองและยังมีส่วนร่วมกับประตูที่สามอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อนาคตของทั้งสองคนยังคงไม่แน่นอน และต้องติดตามกันต่อไปว่าลิเวอร์พูลจะจัดการกับตำแหน่งนี้อย่างไร
3. แสงสว่างจากเหล่าดาวรุ่ง เช่นเดียวกับทุกๆ ปีในช่วงปรีซีซั่น นี่คือเวทีสำหรับเหล่าดาวรุ่งที่จะได้โชว์ฝีมือ และคนที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ก็คือ ริโอ เอ็นกูโมฮา ปีกวัย 16 ปี ที่สร้างปัญหาให้กับแนวรับของเปรสตันได้อย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วและความคล่องตัว นอกจากนี้ เทรย์ นีโอนี่ และ ลูคา สตีเฟนสัน ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของสโมสร
บทสรุปจากเกมแรกนี้อาจจะยังวัดผลในเชิงแทคติคได้ไม่มากนัก แต่มันคือการแสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นส่วนบุคคลที่น่าสนใจ และที่สำคัญที่สุดคือการแสดงให้เห็นถึงสปิริตของทีมที่พร้อมจะก้าวต่อไปด้วยกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด