ก่อนถึงเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 10 ในวันเสาร์นี้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยังคงอยู่ในโซนตกชั้น โดยจะเปิดสนาม ซิตี้ กราวน์ด ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรงหลังคว้าชัยติดต่อกันสามนัดรวด
แม้ว่า ฌอน ไดช์ จะพอใจหลังจากทีมของเขาเพิ่งชนะ ปอร์โต้ ในศึกยูโรปาลีก แต่ความพ่ายแพ้ต่อ บอร์นมัธ แสดงให้เห็นว่ายังมีระยะทางอีกไกลที่ ฟอเรสต์ ต้องก้าวข้ามเพื่อกลับไปสู่มาตรฐานที่เคยทำได้เมื่อฤดูกาลก่อน
ฤดูกาลที่แล้ว ฟอเรสต์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการบุกไปชนะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และลูกยิงสุดสวยของ แอนโทนี่ อีลังกา ในบ้านช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะเหนือ “ปีศาจแดง” แบบไป-กลับได้สำเร็จ
ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่มั่นคง ทั้งในด้านผลงานและผลการแข่งขัน โดยตั้งเป้าจะคว้าอีกสามคะแนนจาก ฟอเรสต์ ที่กำลังเปราะบางกว่าที่เคยเผชิญ
ฟอเรสต์ ไม่สามารถยิงประตูได้เลยในสี่นัดหลังสุดในลีก ขณะที่คลีนชีตครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในเกมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ไดช์ มีหลายปัญหาที่ต้องแก้ และชัยชนะในเกมนี้จะเป็นการคืนความมั่นใจให้กับลูกทีม รวมถึงสร้างแรงกดดันให้ทีมเยือนกลับไปเจอกับความไม่แน่นอนอีกครั้ง
️ ฟอเรสต์ จะสามารถเล่นเกมรับเหนียวแน่นแบบเดิมได้อีกหรือไม่?
จังหวะเซฟบนเส้นของ มูริโญ่ ที่ช่วยทีมรอดจากการเสียประตูให้กับทีมของ รูเบน อโมริม ในเกมชนะเดือนเมษายน คือสัญลักษณ์ของความแน่วแน่ในเกมรับที่พาทีมรอดตกชั้นเมื่อซีซั่นก่อน
แต่ความแข็งแกร่งนั้นดูเหมือนจะเลือนหายไปหลังการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม จุดอ่อนจากลูกตั้งเตะทำให้พวกเขาสะดุดและบดบังผลงานดีในบางช่วง
หนึ่งในเหตุผลที่ ไดช์ ถูกเลือกเข้ามาก็คือความสามารถในการสร้างเสถียรภาพให้สโมสรในช่วงวิกฤต พร้อมหวังดึงสไตล์แบบที่ นูโน เอสปิริโต ซานโต เคยสร้างกลับมา
หาก ฟอเรสต์ สามารถเก็บคลีนชีตได้ในเกมวันเสาร์นี้ นั่นจะช่วยลดแรงกดดันของ แม็ตซ์ เซลส์ และแนวรับทั้งหมด พร้อมอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการคืนสู่เกมรับที่แข็งแกร่งเหมือนเดิม
ถึงแม้เป้าหมายหลักของ ไดช์ คือการสร้างแนวรับที่มั่นคง แต่เจ้าตัวยืนยันว่าปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้คือ “เกมรุก” ซึ่งเขากำลังพยายามถ่ายทอดแนวคิดนี้ให้ลูกทีมเข้าใจในทุกการฝึกซ้อม
⚙️ การฝึกซ้อมเต็มสัปดาห์จะเปลี่ยนแปลงผลงานได้หรือไม่?
การเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมกลางฤดูกาลนั้นไม่ง่าย โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องปรับระบบการเล่นใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ไดช์ ได้มีเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ในการฝึกซ้อมกับลูกทีม เพื่อปลูกฝังแนวคิดและรูปแบบแท็กติกของเขาอย่างเต็มที่
ในเกมกับ บอร์นมัธ ทีมดูเหมือนจะขาดความฟิตในครึ่งแรก ซึ่งอาจมาจากผลกระทบของเกมยูโรปาลีกที่เตะไปเพียงสามวันก่อนหน้านั้น
แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือปัญหาการทำประตู เพราะ ฟอเรสต์ เป็นทีมที่ยิงได้น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
การได้ประตูนำก่อนมักเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ ฟอเรสต์ ควบคุมเกมได้และเล่นในแผนที่วางไว้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับขาดความมั่นใจและความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย
แม้ว่า ไดช์ จะยอมรับถึงความแตกต่างระหว่างฟอร์มของฤดูกาลนี้กับปีที่แล้ว แต่เขาเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาของการปรับตัวเพื่อพาทีมเข้าสู่ยุคใหม่อย่างมั่นคง
หากแผนของ ไดช์ จะต่างจากสมัยของ นูโน เอสปิริโต ซานโต อยู่บ้าง แต่ตราบใดที่ทีมกลับมายิงประตูได้และเก็บแต้มสำคัญ แฟนบอลคงยังไม่เริ่มตั้งคำถามถึงทิศทางของสโมสร
⚽ อิกอร์ เฆซุส จะคว้าโอกาสพิสูจน์ตัวเองได้หรือไม่?
ไดช์ ยืนยันว่า คริส วู้ด จะยังไม่พร้อมลงสนามในเกมสุดสัปดาห์นี้ แม้จะมั่นใจว่าดาวยิงชาวนิวซีแลนด์จะกลับมาได้ในเร็ววัน
ฤดูกาลก่อน วู้ด ซัดไปถึง 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมทำให้ อิกอร์ เฆซุส ต้องใช้เวลารอคอยโอกาสของตนเอง
แม้ยังไม่สามารถยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ แต่หัวหอกชาวบราซิลรายนี้ทำไปแล้วถึง 5 ประตูในบอลถ้วยต่างๆ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามองในระบบของ ไดช์
เขากำลังพยายามพิสูจน์ว่าคู่ควรกับตำแหน่งตัวจริงในลีก และหากสามารถระเบิดฟอร์มได้ในเกมวันเสาร์นี้ ก็จะช่วยแบ่งเบาความกดดันของเพื่อนร่วมทีมได้ไม่น้อย
เกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเป็นโอกาสทองที่ เฆซุส จะได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของตนเองอีกครั้ง
แฟนบอลต่างรอดูว่า ไดช์ จะปรับแผนการเล่นครั้งใหญ่แบบเดียวกับ อังเก้ ปอสเตโคกลู หรือไม่ และการรับมือกับแท็กติกของ รูเบน อโมริม จะส่งผลอย่างไรต่อการจัดทีม โดยเฉพาะในแนวรุก