การแข่งขันในคืนวันศุกร์นี้ที่ วิลล่า พาร์ค อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ แอสตัน วิลล่า หากพวกเขาสามารถคว้าชัยเหนือผู้มาเยือนอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้สำเร็จ เพราะจะช่วยให้ทีมมีโอกาสเข้าใกล้โควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากขึ้นไปอีกขั้น
ในตอนนี้ แอสตัน วิลล่า รั้งอันดับ 6 ของตาราง หลังจากเฉือนชนะ บอร์นมัธ ไปแบบหวุดหวิด 1-0 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เก็บเพิ่มเป็น 63 แต้ม เท่ากับ เชลซี ที่อยู่อันดับ 5 และเหลืออีกเพียงสองนัดสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ทางฝั่ง ฮ็อตสเปอร์ ยังคงอยู่ในอันดับ 17 มีเพียง 38 แต้ม หลังจากแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เกมก่อนหน้านี้ที่ วิลล่า บุกไปเยือน ไวทัลลิตี้ สเตเดียม พวกเขาแทบไม่ได้สร้างสรรค์โอกาสมากนัก โดยทั้งเกมยิงได้เพียง 6 ครั้ง และ 3 ครั้งนั้นเกิดในช่วงทดเวลาครึ่งแรก ส่วนลูกสุดท้ายเกิดเพียงนาทีเดียวหลังเริ่มครึ่งหลัง
แม้จะเก็บชัยมาได้แบบไม่สวยหรู แต่ อูไน เอเมรี่ นายใหญ่ของ แอสตัน วิลล่า คงไม่สนใจรูปเกมนัก เพราะตอนนี้ทีมของเขามีลุ้นโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเต็มตัว โดยที่ความต่างอยู่เพียงลูกได้เสีย ขณะที่ เชลซี ยังต้องเจองานหนักกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล
การพลาดตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก อาจส่งผลเสียในหลายด้าน โดยเฉพาะกับความสามารถในการรั้งนักเตะตัวหลักของทีมไว้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าพวกเขาอาจมีปัญหากับกฎควบคุมรายได้และการใช้จ่าย
ก่อนเกมวันศุกร์นี้ แอสตัน วิลล่า เก็บคลีนชีตติดต่อกัน 2 นัด และเก็บสถิติเกมรับที่น่าประทับใจ โดยไม่เสียประตูใน 5 จาก 8 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และเสียไปเพียง 3 ประตูในช่วงนั้น
ฟอร์มโดยรวมของลูกทีม เอเมรี่ ถือว่าร้อนแรงมาก พวกเขาชนะถึง 7 จาก 8 เกมลีกหลังสุด แพ้แค่นัดเดียว และยิงได้ถึง 16 ประตู
ที่สำคัญ พวกเขามีสถิติเล่นในบ้านที่ยอดเยี่ยม ไม่แพ้ใครใน 20 นัดล่าสุดที่ วิลล่า พาร์ค โดยคว้าชัยได้ถึง 14 นัด รวมถึงชนะรวดใน 7 เกมล่าสุดต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง
ด้าน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ผลงานยังคงน่าผิดหวัง เกมล่าสุดกับ คริสตัล พาเลซ พวกเขาเสียถึง 2 ประตู แต่ความเป็นจริงอาจเสียมากกว่านั้น เพราะ พาเลซ มีโอกาสยิงถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 10 และสร้างโอกาสสำคัญได้ถึง 8 ครั้ง
ฤดูกาลนี้ถือว่าเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดของ ไก่เดือยทอง ภายใต้การคุมทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู และหากแพ้อีกในวันศุกร์นี้ จะทำให้ทีมพ่ายแพ้ในลีกถึง 21 นัดจาก 37 เกม
ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วสองครั้งในฤดูกาลนี้ โดย วิลล่า เคยเอาชนะได้ในถ้วย เอฟเอ คัพ ที่สนามแห่งนี้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ด้วยสกอร์ 2-1 ส่วนเกมลีกนัดแรกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2024 เป็นฝั่ง ฮ็อตสเปอร์ ที่เปิดบ้านถล่มไป 4-1
ปอสเตโคกลู ให้เหตุผลถึงฟอร์มในลีกที่ตกต่ำว่า มาจากทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นและการต้องทุ่มเทในรายการ ยูโรป้าลีก ซึ่งเขาตั้งเป้าจะพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้
นายใหญ่ชาวออสเตรเลียรายนี้แพ้ไปถึง 7 นัดจาก 10 เกมลีกหลังสุด โดยมีชัยชนะแค่นัดเดียวซึ่งเป็นเกมที่ถล่ม เซาแธมป์ตัน 3-1 เมื่อวันที่ 6 เมษายน
นอกจากนี้ ฮ็อตสเปอร์ ยังไม่ชนะใครใน 5 เกมเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แพ้ไปถึง 4 นัด เสียถึง 13 ประตู และยิงคืนได้เพียง 4 ลูกเท่านั้น
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม:
แอสตัน วิลล่า:
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ; แม็ตตี้ แคช, เอซรี่ คอนซา, เปา ตอร์เรส, ลูว์ก้า ดีญ; บูบาการ์ กามาร่า, อามาดู โอนาน่า; มอร์แกน โรเจอร์ส, มาร์โก อเซนซิโอ, จอห์น แม็คกินน์; โอลลี่ วัตกิ้นส์
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์:
กุยเยร์โม่ วิคาริโอ; เปโดร ปอร์โร่, เควิน ดันโซ, เบน เดวีส์, เจด สเปนซ์; จอห์น เกรย์, อีฟส์ บิสซูม่า, ปาเป้ ซาร์; เบรนแนน จอห์นสัน, ริชาร์ลิซอน, ซน ฮึง-มิน