อาร์เซน่อล ได้รับข่าวดีครั้งสำคัญ เมื่อสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่า วิลเลียม ซาลิบา ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ได้จรดปากกาต่อสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับทีมไปจนถึงปี 2030 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการยุติข่าวลือกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด และเป็นการการันตีอนาคตของหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในยุโรปไว้ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป
ภายหลังการเซ็นสัญญา ซาลิบาได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงความรู้สึก, การเดินทางที่ผ่านมา และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเขากับสโมสรแห่งนี้
“ผมยังไม่แฮปปี้ 100%” – เป้าหมายคือถ้วยแชมป์
แม้จะมีความสุขกับการต่อสัญญา แต่ซาลิบาในวัย 24 ปี ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานอันแรงกล้า โดยยืนยันว่าเขายังไม่พอใจกับสถานะปัจจุบันของทีม
“ตอนนี้ผมมีความสุข แต่ก็ยังไม่แฮปปี้ 100% เพราะเรายังต้องทำอะไรอีกมาก” ซาลิบากล่าว “เราต้องคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่เราและสโมสรต้องการ”
“ตอนนี้ผมอายุ 24 และผมคิดว่าผมยังไม่ถึงจุดสูงสุดในอาชีพ ผมยังมีอะไรต้องปรับปรุงอีกมาก และผมรู้ว่าผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์โค้ชจะช่วยให้ผมกลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกและคว้าถ้วยรางวัลมาครองให้ได้”
“ที่นี่คือบ้าน” – เหตุผลที่เลือกอยู่ต่อ
ซาลิบาย้ำว่าการตัดสินใจฝากอนาคตไว้กับอาร์เซน่อลเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขา “ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เรามีทีมที่ดี, ขุมกำลังที่ดี และสตาฟฟ์ที่ดี ผู้จัดการทีม (มิเกล อาร์เตต้า) ก็สมบูรณ์แบบสำหรับผม ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดแล้ว”
“บอสคือหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดในโลก เขาช่วยผมไว้มาก ผมมีความสุขจริงๆ ที่มีเขาเป็นโค้ช”
การเดินทางที่ไม่เคยยอมแพ้ และสายใยพิเศษกับแฟนบอล
เส้นทางของซาลิบากับอาร์เซน่อลไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากเซ็นสัญญากับทีมในปี 2019 เขาต้องถูกปล่อยยืมตัวถึง 3 ครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ และสิ่งที่ทำให้เขายังคงผูกพันกับสโมสรคือแรงสนับสนุนจากแฟนบอล
“ผมมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับพวกเขา เพราะแม้กระทั่งตอนที่ผมถูกปล่อยยืมตัวและไม่ได้เล่นที่นี่ พวกเขาก็ยังส่งข้อความมาหาผมเสมอว่า ‘สักวันหนึ่งนายจะได้เล่นให้สโมสรแห่งนี้ อย่ายอมแพ้ล่ะ’ ผมจะไม่มีวันลืมสิ่งนี้เลย”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน เรารู้ดีว่าพวกเขากำลังรอคอยอะไรอยู่ และเราจะทุ่มเทให้ดีที่สุด ยิ่งกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา เพื่อมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการให้กับพวกเขา”
การต่อสัญญาของ วิลเลียม ซาลิบา ในครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่การขยายสัญญาของนักเตะคนหนึ่ง แต่มันคือคำประกาศถึงความมุ่งมั่น, ความภักดี และความฝันร่วมกันที่จะพาอาร์เซน่อลกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง