7msport

“ผมพูดเสมอว่าเขายังเป็นคนเดิม” – อเล็กซ์ มาร์เกซ เผยความเชื่อมั่นในตัวพี่ชายที่ไม่เคยสั่นคลอน

ภายหลังจากที่ มาร์ค มาร์เกซ ผงาดคว้าแชมป์โลกโมโตจีพีสมัยที่ 7 ของตนเองได้สำเร็จที่ประเทศญี่ปุ่น อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายและอดีตคู่ท้าชิงบัลลังก์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เจาะลึกถึงความรู้สึกเบื้องหลังความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยได้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เขามีต่อพี่ชายมาโดยตลอด แม้ในช่วงเวลาที่หลายคนอาจสิ้นหวังไปแล้ว

แม้จะเป็นสุดสัปดาห์ที่ยากลำบากสำหรับตัวเองด้วยการจบอันดับ 6 แต่อเล็กซ์ก็มองว่าเป็นการ “กอบกู้” สถานการณ์ได้ดี และที่สำคัญคือเขารู้สึก “โล่งใจ” ที่ความกดดันในการเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกเพียงหนึ่งเดียวได้จบสิ้นลง และตอนนี้เขาสามารถกลับมามีสมาธิกับงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่

“ผมรู้ว่าเมื่อเขามีอาวุธที่พร้อมสู้ เขาจะยิ่งอันตรายกว่าเดิม”

ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดคือเมื่ออเล็กซ์ได้พูดถึงมุมมองที่เขามีต่อพี่ชายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บและผลงานที่ตกต่ำกับฮอนด้า

“ผมมีความสุขกับเขามากๆ เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่สมควรกลับมาเป็นแชมป์ได้แบบนี้ คนนั้นก็คือมาร์ค” อเล็กซ์กล่าว “และผมพูดเสมอตอนที่เขายังอยู่กับฮอนด้า ในวันที่ผู้คนวิจารณ์เขาหรือบอกว่าเขาหมด ‘เวทมนตร์’ ไปแล้ว ผมจะตอบกลับไปว่า ‘เขายังเป็นคนเดิม’

“ผมรู้ดีว่าเมื่อเขากลับมามีอาวุธ (รถแข่ง) ที่พร้อมสู้ เขาก็จะยิ่งอันตรายกว่าเดิมเสียอีก เพราะสิ่งที่เขาเคยพลาดไปในอดีต ซึ่งก็คือการเสี่ยงเกินความจำเป็น ตอนนี้เขาเข้าใจมันดีขึ้นมาก เขามีวุฒิภาวะมากขึ้นในความหมายที่ดีของคำ”

เบื้องหลังความสำเร็จคือ “ทีมเวิร์ค”

อเล็กซ์ยังคงถ่อมตัวและยืนกรานว่าความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้มาจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นผลจากความร่วมมือของทีมงานทุกคนที่อยู่รายล้อมมาร์คตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

“มันไม่ใช่แค่ผมคนเดียว มีคนมากมายอยู่รอบตัวเขา ทั้งทีมงาน นักกายภาพบำบัดที่เคยมาอาศัยอยู่กับเราเกือบสองปีครึ่ง มันคือการทำงานร่วมกันของทุกคนเพื่อให้เขาสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“แน่นอนว่าผมมีความสัมพันธ์ที่พิเศษสุดๆ กับมาร์ค แค่มองตากันเราก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่”

“แต่คุณอาจมีทีมงานที่ดีที่สุดอยู่รอบตัว แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนที่อยู่บนรถแข่งคือเขา อัจฉริยะคือเขา คนที่พลิกสถานการณ์กลับมาได้ก็คือมาร์ค

คำให้สัมภาษณ์ของ อเล็กซ์ มาร์เกซ ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสุขและความภาคภูมิใจในตัวพี่ชาย แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นอย่างไม่มีเงื่อนไขที่เขามีให้เสมอมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงสายใยอันแน่นแฟ้นของสองพี่น้องที่ยิ่งใหญ่กว่าการแข่งขันในสนาม