นี่ควรจะเป็นฤดูร้อนที่ดีที่สุดในชีวิตของ ดิโอโก้ โชต้า
เขานำทัพลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกในชีวิต, ชูถ้วยยูฟ่า เนชันส์ ลีก กับทีมชาติโปรตุเกส, และเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กับ รูเต้ คาร์โดโซ่ คู่ชีวิตที่ร่วมทางกันมา 13 ปีและเป็นแม่ของลูกๆ ทั้งสามคนของเขาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ทุกอย่างกำลังจะสมบูรณ์แบบก่อนที่เขาจะกลับไปรายงานตัวฝึกซ้อมปรีซีซั่นในสัปดาห์หน้า
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกอย่างโหดร้ายที่สุด… อุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดี ณ พื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน ได้พรากชีวิตของเขาและ อังเดร ซิลวา พี่ชายไปตลอดกาล
ข่าวนี้สร้างความช็อกและทิ้งให้โลกฟุตบอลต้องตกอยู่ในความเงียบงัน โชต้าจากไปในวัยเพียง 28 ปี ในช่วงเวลาที่เขากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งซึ่งคว้ามาแล้วถึง 5 แชมป์สำคัญทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เรื่องราวของเขาจบลงเร็วเกินไป ดังที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ เพื่อนร่วมทีมชาติของเขากล่าวไว้… “มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
ยอดดาวยิงนาม ‘Jota the Slotter’
ในฐานะนักฟุตบอล โชต้าคือนักเตะสารพัดประโยชน์ที่มีพรสวรรค์รอบด้าน เขาฉลาด, มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยากจะหยุดยั้ง และเป็นเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษ แฟนบอลลิเวอร์พูลตั้งฉายาให้เขาว่า ‘Jota the Slotter’ จากความเยือกเย็นในการเลือกมุมยิงส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้อย่างเฉียบคม
เป๊ป ไลจ์นเดอร์ส ผู้ช่วยผู้จัดการทีม เคยขนานนามเขาว่าเป็น “อสูรกายแห่งการเพรสซิ่ง” (pressing monster) จากพลังงานที่ไม่เคยหมดในการวิ่งไล่บี้แนวรับคู่แข่ง เขามักจะเฉิดฉายในเกมใหญ่เสมอ และสโมสรอาร์เซนอลคือหนึ่งในเหยื่อชั้นดีที่โดนเขาเล่นงานครั้งแล้วครั้งเล่า
ประตูสุดท้ายของเขากับสโมสร คือประตูชัยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่เฉือนชนะเอฟเวอร์ตัน 1-0 ซึ่งเป็นประตูที่สรุปทุกคุณสมบัติของเขาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ: การลากเลื้อยหลอกล่อกองหลังจนหัวหมุน ก่อนจะจบสกอร์อย่างเยือกเย็นที่เสาแรกชนิดที่ผู้รักษาประตูได้แต่ป้องกันด้วยสายตา
ตัวตนอีกด้าน: ชายผู้เป็นที่รักและนักกีฬายุคใหม่
แต่ฟุตบอลเป็นเพียงส่วนหนึ่งในเรื่องราวของเขา… สิ่งที่ทำให้โชต้าเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ความเก่งกาจในสนาม แต่คือความอบอุ่นและเป็นมิตรในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ดาร์วิน นูนเญซ เพื่อนร่วมทีมของเขากล่าวว่าจะจดจำ “รอยยิ้มของเขา ในฐานะเพื่อนที่ดีทั้งในและนอกสนาม”
เขาสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับแฟนบอลได้อย่างน่าทึ่ง เขาเข้าใจจิตวิญญาณของเมืองลิเวอร์พูล และตอบแทนเสียงเชียร์ด้วยฟอร์มการเล่นที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและสนุกสนาน บทเพลง “Oh his name is Diogo” กลายเป็นเพลงฮิตติดปากแฟนบอลทั่วทุกสนามที่ลิเวอร์พูลไปเยือน
นอกสนาม โชต้าคือเกมเมอร์ตัวยง เขาเคยรั้งอันดับ 1 ของโลกในเกม EA Sports FIFA 21 และก่อตั้งทีม E-Sports ของตัวเองในชื่อ ‘Luna Galaxy’ ท่าดีใจ “นั่งกดจอยเกม” ของเขาคือสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงสองโลกที่เขารักไว้ด้วยกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาคือนักกีฬายุคใหม่ที่กล้าหาญพอจะพูดถึงเรื่องสุขภาพจิตอย่างเปิดเผย เขาเคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ของสโมสรว่า “การได้พูดคุยกับใครสักคนและพูดถึงปัญหาออกมาดังๆ มันช่วยได้มากจริงๆ” ความเปิดเผยและวุฒิภาวะเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยนักในหมู่นักฟุตบอลอาชีพ
ดิโอโก้ โชต้า ไม่ใช่นักฟุตบอลธรรมดาในทุกมิติ เรื่องราวของเขาอาจจบลงแล้ว แต่ตำนานของยอดนักสู้ผู้เป็นที่รักจะยังคงก้องกังวานในใจของแฟนบอลตลอดไป