7msport

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พร้อมลงสนามเจอกับยักษ์ใหญ่จากอิตาลีในศึกชิงแชมป์สโมสรยุโรป !!

PSG-Inter

ศึกฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังจะมาถึงแล้ว สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2025 ที่จะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างยอดทีมจากฝรั่งเศสกับยักษ์ใหญ่จากแดนมักกะโรนี

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่ได้ทำผลงานดีนักในรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปียนส์ลีกฉบับลีกแบบใหม่ โดยทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ จบอันดับที่ 15 จาก 36 ทีม และต้องลงเล่นเกมเพลย์ออฟเพิ่มอีกสองนัดเพื่อผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เส้นทางของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สู่รอบชิงชนะเลิศเริ่มจากการเอาชนะทีมเพื่อนร่วมลีกอย่าง แบรสต์ ด้วยสกอร์รวม 10-0 ในรอบเพลย์ออฟ ก่อนจะดวลจุดโทษชนะ ลิเวอร์พูล หลังเสมอกัน 1-1 ในรอบ 16 ทีม ต่อด้วยการเฉือน แอสตัน วิลล่า สกอร์รวม 5-4 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และปิดท้ายด้วยการโค่น อาร์เซนอล 3-1 ในรอบรองชนะเลิศ

ทางด้าน อินเตอร์ มิลาน จบอันดับ 4 ในรอบแบ่งกลุ่มโดยมีสถิติชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 แต่ผลต่างประตูได้น้อยกว่า บาร์เซโลนา และ อาร์เซนอล ที่ทำสถิติเดียวกัน

ด้วยการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ อินเตอร์ มิลาน เอาชนะ เฟเยนูร์ด จากเนเธอร์แลนด์ ด้วยสกอร์รวม 4-1 ในรอบ 16 ทีม ก่อนจะเฉือน บาเยิร์น มิวนิค 4-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และเฉือนชนะ บาร์เซโลนา 7-6 ในรอบรองชนะเลิศสุดคลาสสิก

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นำโดยปีกทีมชาติฝรั่งเศส อุสมาน เดมเบเล่ ที่มีโอกาสคว้ารางวัลบัลลงดอร์ปลายปีนี้จากผลงานที่พาทีมคว้าแชมป์และผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม เดมเบเล่ ถูกปรับบทบาทมาเป็นศูนย์หน้าตัวหลอกในระบบ 4-3-3 ทำให้ปีกทั้งสามอย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย, เดซีเร่ ดูเอ้ และ แบรดลีย์ บาร์โคล่า ต่างเป็นอาวุธอันตราย ขณะที่ผู้รักษาประตู จานลุยจิ ดอนนารุมมา ก็โชว์ฟอร์มเหนียวแม้จะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างในอดีต

ส่วน อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การคุมทัพของ ซิโมเน อินซากี้ เน้นเกมรับเป็นหลัก แต่เต็มไปด้วยผู้เล่นเทคนิคสูงในทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะกองหน้าอย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ มาร์คุส ตูราม ที่เล่นในระบบ 3-5-2 ขณะเดียวกัน อเลสซานโดร บาสโตนี คือหนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก และยังมีวิงแบ็กฝั่งขวาและซ้ายระดับท็อปอย่าง เดนเซล ดุมฟรีส์ และ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก นอกจากนี้ นิโคโล บาเรลลา ยังถือเป็นมิดฟิลด์ที่ถูกมองข้ามไปในเวทีโลก