ใครก็ตามที่เคยดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในช่วงปี 2008 ถึง 2012 คงจะไม่มีวันลืมภาพของ “ลูกทุ่มเดแลป” อันเป็นเอกลักษณ์ของ รอรี่ เดแลป ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับทุกแนวรับที่ต้องเผชิญหน้ากับ สโต๊ค ซิตี้… แต่น่าแปลกที่หลังจากยุคของเดแลปสิ้นสุดลง ลูกทุ่มก็กลับไปเป็นเพียงแค่ลูกตั้งเตะที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในเกมฟุตบอล ทั้งๆ ที่มันคือ “สูตรโกง” ที่ซ่อนอยู่
ในทุกๆ เกมการแข่งขัน จะมีลูกทุ่มเกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณ 35 ครั้ง มันคือจังหวะที่ผู้เล่นสามารถใช้มือขว้างบอลเข้าไปในสนามได้โดยที่ไม่มีกฎล้ำหน้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา กฎและรูปแบบของลูกทุ่มแทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย และนี่คือ 5 ไอเดียที่จะปลุกชีพและเปลี่ยนลูกทุ่มธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธลับ
1. เรียนรู้เทคนิคของเดแลปและทำให้เป็นกระแสหลัก ลูกทุ่มที่พุ่งตรงและแรงราวกับลูกศรของเดแลปคือฝันร้ายของกองหลัง สโต๊คยิงประตูจากลูกทุ่มของเขาได้ถึง 25 ประตูใน 4 ปี คำถามคือ… ทำไมถึงไม่มีใครพยายามเลียนแบบ? แม้ว่าเดแลปจะมีพื้นฐานจากการเป็นนักพุ่งแหลน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะฝึกฝนผู้เล่นให้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
2. เลิกอคติกับลูกทุ่มไกล – มันก็เหมือนกับลูกเตะมุม ต้องยอมรับว่าลูกทุ่มไกลมักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลที่ “น่าเกลียด” และเน้นเกมรับ แต่ในยุคที่โค้ชลูกตั้งเตะกำลังเป็นที่นิยม เราควรจะตั้งคำถามกับตรรกะนี้ใหม่ การทุ่มบอลไกลเข้าไปในกรอบเขตโทษมันแตกต่างอะไรจากการเปิดลูกเตะมุมเข้าไปตรงๆ?
3. นำรูปแบบของลูกเตะมุมมาปรับใช้ โค้ชลูกตั้งเตะได้เปลี่ยนลูกเตะมุมและฟรีคิกให้กลายเป็นเหมือนแผนการเล่นในอเมริกันฟุตบอล แล้วทำไมเราไม่ทำแบบเดียวกันกับลูกทุ่ม? จินตนาการถึงการวิ่งหลอก, การยืนบัง และการเคลื่อนที่อย่างเป็นระบบเพื่อสร้างโอกาสจากการทุ่มบอล มันคือศักยภาพที่ยังไม่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่
4. ใช้ประโยชน์จากกฎ “ไม่ล้ำหน้า” นี่คือ “สูตรโกง” ที่ชัดเจนที่สุด กฎล้ำหน้าคือรากฐานของแทคติคฟุตบอล แต่กฎนี้กลับไม่มีผลในจังหวะทุ่มบอล! มันน่าเหลือเชื่อที่สโมสรต่างๆ ไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ให้มากขึ้น เราอาจจะได้เห็นกองหน้าไปยืนรอที่หน้าปากประตู หรือวิ่งตัดแนวรับเพื่อรับบอลทุ่มยาว ซึ่งจะบีบให้แนวรับของคู่แข่งต้องถอยลึกและเปิดพื้นที่ในแดนกลางมากขึ้น
5. กล้าที่จะเสี่ยงกับการทุ่มข้ามฟาก ในยุคที่ทีมต่างๆ กล้าที่จะเสี่ยงกับการต่อบอลจากแดนหลังเพื่อล่อให้คู่แข่งเข้ามาเพรสซิ่ง มันถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนมุมมองต่อลูกทุ่มในแดนตัวเอง จากที่เคยเป็นแค่การทุ่มเลาะเส้นไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย ลองจินตนาการถึงการฝึกซ้อมลูกทุ่มไกลข้ามฟากไปยังปีกอีกฝั่งที่ยืนรอโดยไม่ล้ำหน้า… มันคือการเปลี่ยนเกมที่สามารถทำลายแผนการเพรสซิ่งของคู่แข่งได้ในพริบตา
บทสรุปคือ ลูกทุ่มคือศักยภาพที่ยังไม่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ และสักวันหนึ่ง จะต้องมีใครสักคนที่หยิบอาวุธที่ รอรี่ เดแลป เคยทิ้งไว้ กลับมาปฏิวัติวงการฟุตบอลอีกครั้ง