บาร์เซโลน่า จะกลับไปลงสนามที่ คัมป์ นู อีกครั้งก่อนเปิดฤดูกาล 2025-26 แต่สนามที่ปรับปรุงใหม่นั้นจะยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้เต็มรูปแบบ ตามแถลงการณ์ล่าสุดของสโมสร
เกม โจน กัมเปร์ โทรฟี่ ซึ่งเป็นแมตช์อุ่นเครื่องประจำปีของสโมสร จะถูกใช้เป็นนัดพิเศษสำหรับการหวนคืนสู่ถิ่นประวัติศาสตร์ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาใช้งานสนามที่ถูกปรับปรุงด้วยงบกว่า 1.25 พันล้านปอนด์
ตลอดช่วงตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา สโมสรได้ใช้ เอสตาดี้ โอลิมปิก หลุยส์ กอมปาญส์ เป็นรังเหย้าชั่วคราว โดยเดิมที บาร์เซโลน่า มีแผนจะกลับเข้าสู่ คัมป์ นู ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 125 ปีของสโมสร
แต่เนื่องจากความล่าช้าในการก่อสร้าง แผนการดังกล่าวจึงถูกเลื่อนหลายครั้ง และแม้ตอนนี้จะมีการยืนยันวันกลับมาใช้งานแล้ว สโมสรยังเปิดเผยว่า จะมีการก่อสร้างในบางส่วนของสนามต่อไปแม้จะเปิดให้ใช้งานแล้วก็ตาม
พื้นที่ที่ยังคงมีงานต่อเนื่อง ได้แก่ การสร้างอัฒจันทร์ชั้นที่สามให้เสร็จ, วงแหวนพื้นที่วีไอพีสองชั้น และการติดตั้งหลังคาใหม่ ขณะเดียวกัน พื้นที่ภายในของสนามจะมีการตกแต่งขั้นสุดท้าย รวมถึงบริเวณโดยรอบสนามก็ยังอยู่ในช่วงพัฒนา
เมื่อโครงการปรับปรุง สปอติฟาย คัมป์ นู เสร็จสมบูรณ์ สนามแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่จัดกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยความจุที่สูงถึง 105,000 ที่นั่ง
ทางสโมสรได้ปล่อยวิดีโอโปรโมตสุดอลังการเพื่อประกาศข่าวนี้ ซึ่งในนั้นเผยให้เห็นภาพบางส่วนของสนามเวอร์ชันใหม่ ขณะเดียวกัน แฟนบอลจำนวนไม่น้อยเคยชมคลิปเร่งเวลา (Time-lapse) ที่แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของงานทั้งภายในและภายนอกสนามไปแล้วเมื่อต้นปี
ภาพการก่อสร้างตลอดทั้งคืนถูกเผยให้เห็น พร้อมกับการติดตั้งเบาะนั่งในแต่ละอัฒจันทร์อย่างต่อเนื่อง
การที่ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจกลับมาใช้สนามแม้จะยังไม่เสร็จทั้งหมด สะท้อนถึงปัญหาด้านการเงินที่สโมสรเผชิญในช่วงที่ไม่ได้ใช้สนามเหย้าของตัวเอง โดยหลายปีที่ผ่านมา สโมสรตกอยู่ในภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่ และโครงการปรับปรุง คัมป์ นู ก็เป็นหนึ่งในความหวังที่จะสร้างรายได้มหาศาลในอนาคต
รายได้ที่สโมสรได้รับจากการใช้ สนามโอลิมปิก นั้นต่ำกว่าที่ควรได้หากใช้ คัมป์ นู แบบเต็มรูปแบบเป็นอย่างมาก
เมื่อโครงการแล้วเสร็จ สนามใหม่จะใช้พลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 18,000 ตารางเมตร สามารถผลิตพลังงานเองได้ และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลยแม้แต่น้อย