บาร์เซโลนา เตรียมแจ้งอย่างเป็นทางการต่อ ลาลีกา ในวันอังคารนี้ เกี่ยวกับสนามที่จะใช้ลงเล่นเกมเหย้านัดแรกของฤดูกาล โดยวันอาทิตย์พวกเขามีคิวพบกับ บาเลนเซีย ซึ่งการกลับมาเปิดใช้ คัมป์ นู ที่เดิมทีวางแผนไว้อาจต้องถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง
ปัญหาหลักคือสโมสรยังไม่ได้รับใบรับรองการก่อสร้างเสร็จสิ้นสำหรับอัฒจันทร์สองฝั่งที่อยู่ระหว่างปรับปรุง ซึ่งจำเป็นต่อการเปิดสนามในความจุ 27,000 ที่นั่ง หากยังไม่มีเอกสารดังกล่าว ก็ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเปิดใช้งานจากสภาท้องถิ่นได้ ส่งผลให้แผนคืนสู่ คัมป์ นู ต้องเลื่อนต่อไป
การกลับสู่คัมป์ นู อาจยืดไปถึงตุลาคม
รายงานจาก กาเดนา เซร์ ระบุว่า โอกาสที่ บาร์เซโลนา จะกลับมาใช้ คัมป์ นู ก่อนช่วงพักทีมชาติในเดือนตุลาคมนั้นแทบเป็นศูนย์ ซึ่งหมายความว่าเวลาที่ล่าช้าจะเกือบครบหนึ่งปีเต็ม แผนดั้งเดิมนั้นตั้งใจเปิดต้อนรับแฟนบอลถึง 60,000 คน
ในช่วงเวลาก่อนพักเบรกทีมชาติ เจ้าบุญทุ่ม ยังมีเกมเหย้าใน ลาลีกา อีกสามนัด (เจอ บาเลนเซีย, เคตาเฟ, และ เรอัล โซเซียดาด) รวมถึงเกมในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่จะพบกับ ปารี แซ็ง-แฌร์แม็ง อย่างไรก็ตาม สโมสรยอมรับว่ายังไม่มั่นใจว่าจะได้ลงเล่นใน คัมป์ นู แม้แต่เกมเดียว
บาร์เซโลนา เตรียมโยกใช้ มอนต์จูอิก
คาดว่า ลาลีกา จะอนุมัติคำร้องให้ทีมใช้สนาม เอสตาดี โยฮัน ครัฟฟ์ ภายในศูนย์ฝึกซ้อมที่จุได้เพียง 6,000 ที่นั่ง ในเกมพบ บาเลนเซีย เนื่องจากไม่สามารถใช้สนาม เอสตาดี โอลิมปิก หลุยส์ กงปานีส์ ได้ เพราะมีคอนเสิร์ตของ โพสต์ มาโลน จัดขึ้นในวันศุกร์
หลังจากนั้น แผนของสโมสรคือย้ายไปแข่งที่ มอนต์จูอิก ในเกมพบ เคตาเฟ, เรอัล โซเซียดาด และ ปารี แซ็ง-แฌร์แม็ง
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งความล่าช้าที่สร้างความเสียหายทางการเงินให้กับ บาร์เซโลนา อย่างมาก เพราะในแต่ละเกมที่ คัมป์ นู สามารถสร้างรายได้ระหว่าง 4-8 ล้านยูโร แม้ความจุที่ลดลงจะทำให้ตัวเลขไม่สูงสุด แต่การเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจัดแข่งที่ มอนต์จูอิก และพลาดรายได้ก้อนโตจากรังเหย้าหลัก ย่อมส่งผลกระทบต่อการเงินของสโมสรอย่างชัดเจน