น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เตรียมเปิดสนาม ซิตี้ กราวด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ในคืนวันเสาร์ ซึ่งเกมนี้อาจกลายเป็นนัดสำคัญที่ชี้ชะตาอนาคตของ อังเก้ ปอสเตโคกลู
หลังจากเข้ามารับตำแหน่งกุนซือเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน กุนซือชาวออสเตรเลียรายนี้ยังไม่สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้เลย และกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
ก่อนหน้านั้น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพิ่งปลด นูโน เอสปิริโต ซานตู ออกจากตำแหน่งในเดือนกันยายน ทำให้ตอนนี้พวกเขาใช้งานกุนซือคนที่สองของฤดูกาลแล้ว
“เจ้าป่า” ยังคงรั้งอันดับ 17 ของตาราง พรีเมียร์ลีก อยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงเล็กน้อย โดยตลอดฤดูกาลนี้ชนะได้เพียงแค่หนึ่งเกมเท่านั้น
ฟอเรสต์ฟอร์มบู่ทั้งบอลลีกและยุโรป
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต้องตกรอบ คาราบาว คัพ อย่างน่าผิดหวัง หลังถูก สวอนซี ซิตี พลิกแซงจากที่นำก่อน 2-0 กลายเป็นแพ้ 2-3 ในช่วงครึ่งหลัง
นอกจากนี้ พวกเขายังพ่ายต่อ มิดทิลแลนด์ ทีมจากเดนมาร์กในศึก ยูโรปาลีก ด้วยสกอร์เดียวกัน 3-2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีกระแสข่าวว่าบอร์ดบริหารเริ่มพิจารณาทางเลือกใหม่ในตำแหน่งผู้จัดการทีม หาก ปอสเตโคกลู ยังไม่สามารถพาทีมชนะได้ต่อเนื่อง
ก่อนพักเบรกทีมชาติ “เจ้าป่า” เพิ่งบุกไปพ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-2 ทำให้เกมกับ เชลซี ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “นัดต้องชนะ” ของจริง
เชลซีเริ่มคืนฟอร์ม หลังเชือด “ลิเวอร์พูล”
ด้าน เชลซี ของ เอ็นโซ่ มาเรสกา แม้จะออกสตาร์ทฤดูกาลได้ไม่ดีนัก แต่เริ่มกลับมาอยู่ในเส้นทาง หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม
ในเกมนั้น มาเรสกา ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามหลังจากเข้าไปดีใจกับลูกทีมที่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 96 จากผลงานของดาวรุ่งชาวบราซิล เอสเตวาว
ปัจจุบัน “สิงห์บลูส์” มีผลงานชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งอันดับ 8 ของตาราง และกำลังกลับมามั่นใจเต็มที่ก่อนออกไปเยือน ซิตี้ กราวด์
⚽ สถิติบ่งชี้ “เชลซี” มักทำได้ดีเวลาเจอ “ฟอเรสต์”
การพบกันครั้งล่าสุดที่สนามแห่งนี้ เชลซี เป็นฝ่ายชนะ 1-0 จากประตูของ ลีวาย โคลวิลล์ ในนาทีที่ 50
ทีมจากลอนดอนยังชนะได้ถึง 3 จาก 4 นัดหลังสุดที่ดวลกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ ซิตี้ กราวด์ และหากเก็บชัยได้อีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาชนะเกมเยือนที่นี่ติดต่อกัน 3 นัด
อย่างไรก็ตาม เชลซี จะไม่มี โคล พาล์มเมอร์ ดาวรุ่งหมายเลข 10 ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อขาหนีบ และต้องพักจนถึงสิ้นเดือนนี้ โดยฤดูกาลนี้เจ้าตัวได้ลงเล่นเพียง 4 นัดในทุกรายการเท่านั้น
นอกจากนี้ รีซ เจมส์ ก็ยังไม่พร้อมลงสนามหลังถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษเพราะอาการเจ็บ ส่วน เลียม เดลาป, มอยเซส ไกเซโด และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามเรื่องความฟิต
ฝั่ง “เจ้าป่า” เจ็บเพียบ
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เองก็มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บไม่ต่างกัน โดยจะไม่มี โอลา ไอนา, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ ดักลาส ลุยซ์ ที่ยังอยู่ระหว่างการพักฟื้น
สถิติการพบกันระหว่างสองทีมใน 8 นัดหลังสุด ฟอเรสต์ เอาชนะได้เพียงครั้งเดียว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2023 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
เกมนี้จะถ่ายทอดสดทางช่อง TNT Sports 1 และ TNT Sports Ultimate ในสหราชอาณาจักร เริ่มแข่งขันเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น