วันเสาร์นี้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เตรียมเปิดบ้านที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ก ต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในศึกพรีเมียร์ลีก โดยทั้งสองทีมต่างมองหาสามแต้มแรกของฤดูกาล
ตลอดช่วงออกสตาร์ตซีซั่น ผลงานของ นิวคาสเซิล ยังไม่น่าประทับใจ หลังจากเสมอสองนัดนอกบ้านและพ่ายแบบเจ็บปวดในช่วงท้ายเกมต่อ ลิเวอร์พูล ส่วนฝั่ง วูล์ฟส์ ปัญหาที่คาดกันไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลก็ปรากฏขึ้นจริง เมื่อพวกเขารั้งตำแหน่งบ๊วยของตาราง
ฟอร์มก่อนเกม
กรณีของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค นอกสนามก็ทำให้บรรยากาศทีมไม่ราบรื่นอยู่แล้ว ขณะที่ฟอร์มการเล่นในสนามก็ยิ่งน่าผิดหวัง เพราะสามนัดแรกยังไร้ชัยชนะ
“สาลิกาดง” กลายเป็นทีมที่ 5 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ออกสตาร์ตด้วยการเสมอ 0-0 สองเกมเยือนติดต่อกัน (กับ แอสตัน วิลล่า และ ลีดส์ ยูไนเต็ด) ก่อนจะแพ้ให้ ลิเวอร์พูล ในนาทีท้าย ๆ ถือเป็นสถิติที่ไม่น่าจดจำ
นี่เป็นเพียงครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสรที่ นิวคาสเซิล เปิดฤดูกาลด้วยการบุกไปเสมอไร้สกอร์สองนัดติดต่อกัน หลังจากเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1901 และพวกเขาเสมอ 0-0 ฤดูกาลนี้มากกว่าสองซีซั่นรวมกันเสียอีก
ผลงานดังกล่าวทำให้ทีมไม่ชนะในพรีเมียร์ลีกมา 5 นัดติด กำลังเสี่ยงต่อการเจอสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบสามปี และหากแพ้อีกในบ้าน เกมนี้จะเป็นการแพ้สามนัดรวดที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ก ครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2021
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งในเกมรับยังพอเห็นได้ เพราะจนถึงตอนนี้ นิวคาสเซิล คือทีมที่เสียโอกาสยิงน้อยที่สุดในลีก (18 ครั้ง) แต่สิ่งที่ขาดคือความเฉียบคมในแดนหน้า โดยแฟน ๆ หวังว่าการมาของ นิค โวลเทอมาด และ โยอัน วิสซ่า จะช่วยเติมเต็มตรงนี้ได้
สถิติการเจอ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็เข้าทางเจ้าบ้าน เพราะจาก 20 นัดในพรีเมียร์ลีก “สาลิกาดง” แพ้เพียงสองครั้งและยิงได้ทุกเกม อีกทั้ง “หมาป่า” เพิ่งชนะในถิ่นไทน์ไซด์เพียงหนึ่งครั้งจาก 22 เกมหลังสุด และเก็บคลีนชีตได้เพียง 2 จาก 43 เกม ซึ่งครั้งล่าสุดย้อนไปไกลถึงปี 1974
ปัญหาของวูล์ฟส์
ฝั่งทีมเยือน ปัญหาที่ชัดเจนที่สุดคือเกมรับ เนื่องจากพวกเขาคือทีมที่เสียประตูมากที่สุดในลีกตอนนี้ การแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บอร์นมัธ และ เอฟเวอร์ตัน ทำให้เสียรวมแล้วถึง 8 ลูก
ผลงานร่วงลงอย่างหนักหลังจากช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่เคยชนะถึง 6 นัดรวดและหนีโซนตกชั้นได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันเก็บได้เพียง 1 แต้มจาก 7 เกมหลัง และหากพ่ายอีกครั้ง นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ วูล์ฟส์ แพ้ 4 เกมเปิดหัวในลีก ซึ่งถือเป็นสถิติอันน่าผิดหวังในฤดูกาลที่ 127 ของสโมสร
ความพร้อมนักเตะ
เอ็ดดี้ ฮาว อาจเลือกปรับแนวรุกโดยส่งทั้ง โวลเทอมาด และ วิสซ่า ลงประเดิมสนาม ส่วน แอนโทนี่ กอร์ดอน ยังติดโทษแบน ขณะที่ แอนโทนี่ อีลังก้า ก็ถูกดร็อปในนัดล่าสุด ทั้งที่เพิ่งย้ายมาจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัวสูง
โจลินตัน มีลุ้นกลับมาลงเล่นหลังหายเจ็บ และ เจคอบ แรมซีย์ ที่ถูกเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่งเกมกับ ลีดส์ ก็มีโอกาสคืนสนามในแดนกลางเช่นกัน
ด้านทีมเยือน วิตอร์ เปเรร่า กุนซือของ วูล์ฟแฮมป์ตัน จะได้ ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน หัวหอกชาวนอร์เวย์กลับมามีชื่อ หลังพลาดเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ส่วนกองหน้าใหม่ โตลู อาโรโกดาเร และ แฟร์ โลเปซ ที่ทำผลงานเด่นจากม้านั่งสำรอง มีโอกาสได้ออกสตาร์ตเช่นกัน
ฮูโก้ บูเอโน่ และ กี-ยานา ฮูเวอร์ ยังต้องเช็กความฟิต เช่นเดียวกับ ลาดิสลาฟ เครย์ชี่ แข้งใหม่จาก คิโรน่า ที่ยังไม่ได้ลงสนามเลยตั้งแต่ย้ายมา