ช่วงซัมเมอร์นี้แฟนบอล บาเยิร์น มิวนิค ได้เห็นชื่อ หลุยส์ ดิอาซ ปีกทีมชาติโคลอมเบียของ ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมจากเยอรมนี รายงานจากสื่อในอังกฤษและเยอรมันเผยว่า “เสือใต้” เคยยื่นข้อเสนอ 67.5 ล้านยูโร (หรือราว 78.3 ล้านดอลลาร์) แต่ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธทันที
ก่อนหน้านี้ บาเยิร์น ก็เคยเปิดดีลเจรจาผู้เล่นรายอื่นอย่าง นิก วอลเตมาเดอ จาก สตุ๊ตการ์ต แต่ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดคือ ดิอาซ ถูกลิสต์เป็นเป้าหมาย แต่ ลิเวอร์พูล ย้ำหนักแน่นชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีแผนขายแนวรุกวัย 28 ปีรายนี้ ยกเว้นจะได้รับข้อเสนอสูงถึงระดับ 100 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป
ทำไม ลิเวอร์พูล จึงย้ำอยากเก็บ ดิอาซ ไว้
-
ฤดูกาลที่ผ่านมา ดิอาซ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นลงสนามใน พรีเมียร์ลีก 36 นัด ทำไป 13 ประตูและ 7 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดของเขาตั้งแต่ย้ายมาร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2021/22
-
โครงสร้างค่าจ้างของสโมสรเน้นความประหยัด (tight wage structure) ทำให้การขายนักเตะที่ลงทุนไปแล้วหลายสิบล้านควรทำเฉพาะเมื่อมีข้อเสนอที่คุ้มค่าเท่านั้น
ความเสี่ยงของ บาเยิร์น ในดีลดังกล่าว
-
การจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อคว้า หลุยส์ ดิอาซ อาจทำลายสมดุลโครงสร้างค่าจ้างที่ แม็กซ์ เอเบอร์ล์ พยายามปรับให้เข้ารูปภายหลังการเซ็นสัญญาคนใหม่เสมอ
-
เดิมทีสโมสรต้องการมองหานักเตะอายุน้อยเพื่อพัฒนา แต่ ดิอาซ ซึ่งอายุ 28–29 ปี ไม่ตรงกับแนวทางลงทุนระยะยาว
-
หากเทียบกับกรณีอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ที่เคยย้ายจาก ลิเวอร์พูล มา บาเยิร์น แล้วกลับไม่ประสบความสำเร็จเต็มที่ และกลายเป็นภาระค่าเหนื่อย ซึ่ง ดิอาซ อาจเผชิญปัญหาซ้ำรอย
บทสรุป: ดีลที่น่าลังเล
-
ปัจจุบัน บาเยิร์น ยังคงให้ความสนใจ ดิอาซ และมีข่าวว่ามีข้อตกลงปากเปล่าให้เซ็นสัญญาถึงปี 2029 (บวกอ็อปชันปี 2030)
-
แต่เมื่อพิจารณาทั้งด้านราคา ฟอร์มดาวรุ่ง อายุของนักเตะ และเป้าหมายของสโมสรในแง่โครงสร้างค่าจ้าง การคว้าตัว ดิอาซ อาจไม่สอดคล้องกับนโยบายและเป็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลเสียในระยะกลาง
ดังนั้น ถึงแม้ บาเยิร์น มิวนิค จะเดินหน้าเจรจาอีกครั้ง แต่ภาพรวมแล้ว ดีลนี้เป็นการลงทุนที่อาจมีความเสี่ยงสูง และอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมในการพัฒนาทีมระยะยาว