มาร์ค มาร์เกซ ครองความยิ่งใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบในศึก อารากอน กรังด์ปรีซ์ นักบิดจากทีม Ducati Lenovo นำทุกเซสชั่นตลอดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ในรุ่นใหญ่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเคยทำได้เองที่ Sachsenring ในปี 2015 แต่ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองชัยชนะ แชมป์โลก 8 สมัยก็เกือบจะสร้างดราม่าให้เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และจุดประกายให้เกิดบทสนทนาที่น่าสนใจเกี่ยวกับกฎกติกาขึ้นมา
ในวันอาทิตย์ มาร์ค มาร์เกซ ขี่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งห่างอันดับสองไปมากกว่าหนึ่งวินาที แต่ในช่วงที่เขากำลังจะฉลองชัยชนะบนทางตรงนั้น “เด็กระเบิด” ก็มีเหตุให้ต้องตกใจเล็กน้อย มาร์ค ซึ่งปล่อยมือออกจากแฮนด์และลุกขึ้นยืน ต้องรีบกลับมาคว้าแฮนด์รถไว้ชั่วขณะ
เหตุผลก็คือ ดังที่เขาได้อธิบายพร้อมเสียงหัวเราะให้กับ อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายของเขา และ เปคโค่ บันยาญ่า ในขณะที่กล้องจับภาพอยู่พอดี คือ “ตอนที่ผมกำลังจะปล่อยมือ รถมันกลับเร่งเครื่องเอง” โชคดีที่เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้ไม่ได้บานปลายไปมากกว่านั้น
และในขณะนั้นเอง บทสนทนาที่น่าสนใจระหว่างสามนักบิดระดับเทพก็ได้เริ่มต้นขึ้น:
- อเล็กซ์ มาร์เกซ: “ถ้ารถมันเร่งแล้วนายล้มลงไป… คงจะสุดยอดไปเลย”
- มาร์ค มาร์เกซ: “รถเข้าเส้นชัย ก็คือชนะ”
- บันยาญ่า: “ไม่นะ นายก็ต้องเข้าเส้นชัยด้วย”
- มาร์ค มาร์เกซ: “จริงเหรอ? ไม่ใช่รถกับฉันเหรอ? ฉันคิดว่าเป็นอย่างนั้นนะ”
- บันยาญ่า: “ไม่ ทั้งสองต้องไปด้วยกัน”
- อเล็กซ์ มาร์เกซ: “ไม่ ตอนนี้ไม่ได้แล้ว”
- มาร์ค มาร์เกซ: “คนใดคนหนึ่ง คนที่เข้าก่อน”
- อเล็กซ์ มาร์เกซ: “คนที่เข้าก่อน อาจจะนะ มันเคยเกิดขึ้นกับฟุรุซาโตะ ฉันคิดว่าใน Moto3 ไม่แน่ใจว่าที่ไหน”
- มาร์ค มาร์เกซ: “ที่ประเทศไทย แต่ทางที่ดีอย่าไปลองเลย”
แล้วกฎที่ถูกต้องว่าไว้อย่างไร?
ในเดือนกันยายน 2023 Grand Prix Commission ได้ประกาศการตัดสินใจที่มีผลบังคับใช้ทันที เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MotoGP ได้เผยแพร่ข้อมูลดังนี้:
“ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งนักบิดแยกออกจากรถของตนเองและข้ามเส้นชัยแยกกัน ได้มีการอนุมัติกฎระเบียบต่อไปนี้เพื่อจัดการกับปัญหานี้:
ในกรณีที่นักบิดไม่ได้สัมผัสกับรถ เวลาสิ้นสุดการแข่งขันจะถูกกำหนดโดย ส่วนแรกของนักบิดหรือรถที่ข้ามเส้นชัย ซึ่งมาถึงเป็นลำดับสุดท้าย
ในทุกกรณี การละเมิดใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแค่ขีดจำกัดของสนามแข่งและการได้เปรียบ จะถูกนำมาพิจารณาในการตัดสินความถูกต้องของรอบนั้นๆ ซึ่งรวมถึงกรณีที่รถและนักบิดแยกจากกัน ซึ่งในกรณีนี้ ทั้งรถและนักบิดจะถูกนำมาพิจารณาในการตัดสินการละเมิด“
เหตุการณ์ที่พี่น้องมาร์เกซและบันยาญ่าจำได้ระหว่าง ไทโย ฟุรุซาโตะ และ คอลลิน เวเจอร์ เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ในการแข่งขัน Moto3 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2014 (ปีในข่าวต้นฉบับอาจคลาดเคลื่อน) ซึ่งในครั้งนั้น นักบิดชาวดัตช์จบอันดับสาม ขณะที่นักบิดชาวญี่ปุ่นจบอันดับห้า โดย MotoGP ให้ตำแหน่งที่ห้ากับ ฟุรุซาโตะ เนื่องจากช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการของพวกเขาได้เน้นย้ำว่า “หลังจากสัมผัสกับเวเจอร์ที่เส้นชัย เขาล้มลง แต่รถของเขาข้ามเส้นชัยไปก่อน ทำให้ได้ตำแหน่งที่ห้า” ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการปรับปรุงกฎให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในเวลาต่อมา