อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดจากทีม BK8 Gresini Racing ได้ออกมาเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึกโล่งใจ หลังจากที่การต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์โลกโมโตจีพี 2025 กับ มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายของเขา ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น โดยยอมรับว่าตอนนี้เขาสามารถ “กลับมามีสมาธิกับเรื่องของตัวเอง” ได้อย่างเต็มที่เสียที
นักบิดวัย 29 ปี เดินทางมาที่สนามโมเตกิในฐานะผู้ท้าชิงเพียงคนเดียวที่สามารถขัดขวางการคว้าแชมป์โลกของพี่ชายได้ แต่เขาก็ต้องเผชิญกับสุดสัปดาห์ที่ยากลำบาก ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ Q2 ได้โดยตรง และจบการแข่งขันในอันดับที่ 6 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะยืดการลุ้นแชมป์ออกไปได้
“ความกดดันที่ส่งผลกับผม” – ยอมรับแบกรับความหวังไว้บนบ่า
อเล็กซ์ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ความกดดันมหาศาลในการต้องต่อสู้กับพี่ชายของตัวเองนั้นส่งผลกระทบต่อฟอร์มการขับขี่ของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ผมอยากจะยืดการลุ้นแชมป์ออกไปให้ถึงอินโดนีเซีย เพื่อชะลอความเร็วของมาร์คลงสักหน่อย และทั้งหมดนั้นมันก็ส่งผลกระทบกับผมเล็กน้อย” เขาเปิดใจ “ผมขับขี่ได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผมเสียจังหวะของตัวเองไป และรู้สึกเกร็งไปหมดตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปอีก”
“ความว่างเปล่าในท้อง” และวินาทีแห่งการปลดปล่อย
เขาได้บรรยายถึงความรู้สึกในวินาทีที่การต่อสู้ทุกอย่างสิ้นสุดลงว่า “ตอนที่มาร์คข้ามเส้นชัยและผมรู้ว่าเขาชนะแล้ว มันเหมือนมีความรู้สึกว่างเปล่าในท้อง เหมือนกับว่า ‘มันจบแล้ว ตอนนี้ฉันสามารถโฟกัสที่เรื่องของตัวเองได้เสียที'”
ความรู้สึกดังกล่าวคือการปลดปล่อยจากภาระอันหนักอึ้งที่เขาแบกรับไว้ และเปลี่ยนเป็นความสุขเพื่อพี่ชายในทันที “ตอนที่เขาเข้าเส้นชัย ผมคือน้องชายที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่สมควรได้รับมัน คนนั้นก็คือเขา”
ภารกิจใหม่ยังรออยู่
แม้การลุ้นแชมป์โลกจะจบลง แต่ฤดูกาลสำหรับอเล็กซ์ยังไม่จบ เขาได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป
“ตอนนี้คือเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ผมยังมีงานที่ต้องทำและมีภารกิจรออยู่ข้างหน้า” เขากล่าวปิดท้าย ซึ่งภารกิจดังกล่าวก็คือการต่อสู้เพื่อรักษาตำแหน่ง “รองแชมป์โลก” เอาไว้ให้ได้นั่นเอง