การย้ายทีมของ นิโคลัส แจ็คสัน จาก เชลซี สู่ บาเยิร์น มิวนิค ที่ดูเหมือนจะเป็นดีลยืมตัวพ่วงออปชั่นซื้อขาดแบบปกติ กลับกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ อูลี่ เฮอเนส ประธานสโมสร “เสือใต้” ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเบื้องหลังสัญญาที่น่าประหลาดใจ ซึ่งบ่งชี้ว่าอนาคตของดาวยิงชาวเซเนกัลในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า อาจไม่ได้ยั่งยืนอย่างที่คิด
แม้ว่าทั้งสองสโมสรจะตกลงสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาลพร้อมเงื่อนไขบังคับซื้อขาดได้ในที่สุด แต่ เฮอเนส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนชนิดหักหน้าทุกฝ่าย โดยระบุว่าดีลนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่หลายคนเข้าใจ
“มันไม่ใช่ค่ายืมตัว 16.5 ล้านยูโรหรอกนะ เพราะตัวนักเตะและเอเย่นต์ของเขาร่วมจ่ายด้วย 3 ล้านยูโร ดังนั้นมันจึงเหลือแค่ 13.5 ล้านยูโร” เฮอเนส กล่าว “และจะไม่มีสัญญาถาวรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เงื่อนไขนั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครบ 40 นัด ซึ่งเขาจะไม่มีทางทำได้”
คำพูดที่ตรงไปตรงมาของประธานกิตติมศักดิ์วัย 73 ปี เปรียบเสมือนการประกาศว่า แจ็คสัน เป็นเพียงการเสริมทัพแบบเฉพาะกิจสำหรับฤดูกาลนี้เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขการซื้อขาดที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงกับกองหน้าเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง แฮร์รี่ เคน
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งของตัวนักเตะและเอเย่นต์ดูจะมีความเห็นที่แตกต่างออกไป โดยแถลงการณ์จาก Epic Sports เอเย่นต์ของแจ็คสันระบุว่า “นี่เป็นมากกว่าการย้ายทีม มันคือแถลงการณ์เชิงกลยุทธ์ มันคือความต่อเนื่องของเส้นทางอาชีพที่ถูกวางแผนมาอย่างพิถีพิถัน” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามองการย้ายทีมครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่ทางผ่าน
สำหรับตัว แจ็คสัน เองก็ยอมรับว่ารู้สึกมีความสุขที่ได้ย้ายมาร่วมทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ก็แอบเศร้าที่ต้องอำลาเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่เชลซีมาเช่นกัน
สถานการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามว่าอนาคตระยะยาวของ นิโคลัส แจ็คสัน กับ บาเยิร์น มิวนิค จะเป็นอย่างไรต่อไป? แม้เงื่อนไขการซื้อขาดที่ 81.5 ล้านยูโร (70.5 ล้านปอนด์) จะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่หากดาวยิงวัย 24 ปี สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในฐานะตัวสำรองของ แฮร์รี่ เคน ก็อาจทำให้บอร์ดบริหารของ “เสือใต้” กลับมาพิจารณาเจรจาค่าตัวใหม่ในช่วงซัมเมอร์หน้าก็เป็นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับผลงานในสนามของเขาเพียงอย่างเดียว