ตามรอยพี่ชาย! “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประกาศปิดดีลคว้าตัว โจ๊บ เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงจาก ซันเดอร์แลนด์ มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัวที่อาจสูงถึง 38 ล้านยูโร (ประมาณ 32 ล้านปอนด์)
สโมสรจากบุนเดสลีกาจะจ่ายค่าตัวเบื้องต้นระหว่าง 30-33 ล้านยูโรสำหรับดาวเตะวัย 19 ปีรายนี้ โดยส่วนที่เหลือจะเป็นเงินจากส่วนเสริม (add-ons) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากเงื่อนไขส่วนเสริมเหล่านี้ถูกเปิดใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ ซันเดอร์แลนด์ คาดหวังแต่ ดอร์ทมุนด์ มองว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ยากกว่า ก็จะทำให้ค่าตัวของเขาสูงกว่าสถิติ 35 ล้านยูโรที่ ดอร์ทมุนด์ เคยจ่ายให้ แรนส์ เพื่อคว้าตัว อุสมาน เดมเบเล่ ในปี 2016 และกลายเป็นการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรทันที
เบลลิงแฮม ได้เซ็นสัญญากับสโมสรไปจนถึงปี 2030 และจะพร้อมลงสนามในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในช่วงซัมเมอร์นี้ที่สหรัฐอเมริกา โดยเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 77 ดอร์ทมุนด์มีโปรแกรมพบกับ ฟลูมิเนนเซ่ สโมสรจากบราซิลในวันที่ 17 มิถุนายน และยังจะต้องพบกับ มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส จากแอฟริกาใต้ และ อุลซาน ฮุนได จากเกาหลีใต้ ในรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ เบลลิงแฮม มีชื่ออยู่ในทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีของ ลี คาร์สลี่ย์ สำหรับศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป แต่ตอนนี้คาดว่าเขาจะต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
“เราดีใจที่สามารถปิดดีลนี้ได้ก่อนศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เพื่อที่เราจะได้เห็น โจ๊บ ในสีเสื้อของเราเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา” เซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการกีฬาของดอร์ทมุนด์กล่าว “เขาสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์และพร้อมที่จะลงสนาม เขาตั้งใจที่จะสร้างเส้นทางของตัวเองที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และสร้างผลงานในแบบที่เราเล่น และเรามั่นใจว่าเขาจะทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน”
ซันเดอร์แลนด์จะยังคงมีเงื่อนไขส่วนแบ่งค่าตัวในการขายครั้งต่อไป (sell-on clause) 15 เปอร์เซ็นต์สำหรับ เบลลิงแฮม ซึ่งดีลนี้ถือเป็นการขายนักเตะที่ทำเงินสูงสุดของสโมสร แซงหน้าการขาย จอร์แดน พิคฟอร์ด ให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2017 เบลลิงแฮมได้กล่าวอำลาซันเดอร์แลนด์ผ่านแถลงการณ์ในอินสตาแกรมของเขา โดยลงท้ายว่า “แมวดำบุญธรรม”
“ถึงซันเดอร์แลนด์” กองกลางกล่าว “ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องกล่าวคำอำลากับผู้คนผู้ภักดีทุกคนของซันเดอร์แลนด์ ผู้ซึ่งเป็นพลังให้ผมตลอดสองปีอันน่าทึ่งในสีเสื้อแดง-ขาว”
“การสนับสนุนของพวกคุณในหลายๆ โอกาส ทำให้ผมประทับใจอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เราผ่านพ้นมาด้วยกัน พวกคุณต้อนรับผมด้วยอ้อมแขนที่เปิดกว้างในฐานะเด็กที่จากบ้านมาครั้งแรก และผมภูมิใจที่ความสัมพันธ์ของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่นั้นมา” แถลงการณ์ยังย้ำถึงความรักที่เขามีต่อแฟนบอล, ทีมงาน และผู้เล่น โดยเขากล่าวว่าจะ “เป็นตัวแทนของชาวเวียร์ไซด์เสมอในทุกสิ่งที่ (เขาพยายาม) จะทำให้สำเร็จตลอดอาชีพค้าแข้งของ (เขา) ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม”
เบลลิงแฮม ซึ่งได้รับความสนใจจาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เพื่อนร่วมลีกบุนเดสลีกาเช่นกัน ได้เดินตามรอยเท้าของ จู๊ด พี่ชายของเขาที่ย้ายมาร่วมทีมดอร์ทมุนด์ในฐานะดาวรุ่งวัย 17 ปีในปี 2020 จาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ โจ๊บเองก็เติบโตมาจากอคาเดมี่ของเบอร์มิงแฮมเช่นกัน โดยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไป 26 นัด ก่อนจะยึดตำแหน่งตัวหลักในแดนกลางของซันเดอร์แลนด์ตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นกำลังสำคัญพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จผ่านรอบเพลย์ออฟในฤดูกาล 2024-25
การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการปล่อยตัวผู้เล่นคนสำคัญรายที่สองในช่วงซัมเมอร์ของซันเดอร์แลนด์ หลังจากที่ ทอม วัตสัน ปีกดาวรุ่ง ย้ายไปร่วมทีม ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์