7msport

ดราม่าชุดใหม่! นิวคาสเซิล แถลงขอโทษ หลังวิดีโอโปรโมทมีภาพ ‘ธงจักรวรรดิญี่ปุ่น’

สโมสรฟุตบอล นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ หลังจากวิดีโอเปิดตัวชุดแข่งที่ 3 ประจำฤดูกาลใหม่ มีภาพที่อาจสร้างความขุ่นเคืองใจและเชื่อมโยงกับสัญลักษณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

วิดีโอดังกล่าว ซึ่งได้นักร้องชื่อดังและแฟนบอลของสโมสรอย่าง แซม เฟนเดอร์ มาร่วมแสดง ได้รับคำชมในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน เนื่องจากมีฉากที่ปรากฏภาพธงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ “ธงอาทิตย์อุทัย” (Rising Sun flag) ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น

ธงดังกล่าวถูกนำมาใช้โดยกองทัพญี่ปุ่นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และสำหรับบางประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย ธงนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เป็นสัญลักษณ์ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์ ทางสโมสรได้ลบวิดีโอต้นฉบับออก และได้อัปโหลดเวอร์ชันใหม่ที่ตัดฉากดังกล่าวออกไป พร้อมออกแถลงการณ์ว่า “ปฏิกิริยาต่อชุดแข่งที่ 3 ชุดใหม่ของเรากับ Adidas นั้นเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม แต่วิดีโอเปิดตัวมีฉากที่อาจสร้างความขุ่นเคืองใจโดยไม่ได้ตั้งใจ เราต้องขออภัยสำหรับเรื่องนั้น เราได้ลบฉากดังกล่าวออกจากวิดีโอแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าแฟนๆ จำนวนมากที่สุดจะสามารถเพลิดเพลินกับมันได้”

การเปลี่ยนแปลงนอกสนามที่น่าจับตา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่สโมสรกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นอกสนาม โดยล่าสุดมีแผนที่จะ “ออกแบบตราสโมสรใหม่” ซึ่งสร้างความรู้สึกที่หลากหลายในหมู่แฟนบอล

สโมสรให้เหตุผลว่า ตราสโมสรปัจจุบันที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1988 มีความซับซ้อนและมีรายละเอียดมากเกินไปสำหรับยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ทำให้การนำไปใช้ในสื่อต่างๆ ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร “ในขณะที่สโมสรของเราเติบโตขึ้นในเวทีระดับโลก สัญลักษณ์ที่แสดงถึงตัวตนของเราก็จำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกเช่นกัน” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากสโมสรระบุ

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ภายใต้การสนับสนุนของ Sela สปอนเซอร์คาดอกจากซาอุดีอาระเบีย ยังได้ริเริ่มโครงการ “เสื้อแข่งระบบสัมผัส” (Haptic shirts) ซึ่งใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนเสียงเชียร์ในสนามให้เป็นการสั่นสะเทือนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้แฟนบอลที่หูหนวกหรือมีความบกพร่องทางการได้ยิน สามารถสัมผัสบรรยากาศของสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก