7msport

“ซื้อเยอะเกินไป!” คอนเต้ เปิดอกรับ วิกฤตนาโปลี หลังพ่ายยับ ชี้ต้องเร่งสร้าง ‘เคมีทีม’ ใหม่

ความพ่ายแพ้ย่อยยับ 2-6 ต่อ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ความปราชัยนัดที่สองติดต่อกัน (หลังจากแพ้ โตริโน่ ในลีก) แต่มันคือสัญญาณเตือนภัยที่ดังกระหึ่มไปทั่วเมืองเนเปิลส์ และล่าสุด อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือจอมแท็กติก ก็ได้ออกมาเปิดใจยอมรับถึง “รากเหง้า” ของปัญหาที่กำลังกัดกินทีมแชมป์เก่าเซเรีย อา อยู่ในขณะนี้

“มันน่าผิดหวังอย่างแน่นอน เมื่อสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มันไม่เคยเกิดขึ้นโดยบังเอิญ” คอนเต้กล่าวอย่างตรงไปตรงมากับ Sky หลังจบเกม

เขาย้อนเปรียบเทียบกับความสำเร็จในการคว้า สคูเด็ตโต้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยขุมกำลังที่เล็กกว่า แต่มีความ “เป็นหนึ่งเดียวกัน” และ “แข็งแกร่ง” อย่างน่าเหลือเชื่อ

“ปีที่แล้วเราคว้าแชมป์ลีกด้วยผู้เล่นเพียงไม่กี่คน พวกเขาทุ่มเทเกินขีดจำกัดด้วยการเล่นที่รัดกุมและเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ปีนี้เรามีเกมต้องเล่นมากขึ้น และเราก็นำผู้เล่นใหม่เข้ามามากขึ้น”

และนี่คือประโยคสำคัญที่สะท้อนถึงปัญหาที่แท้จริง…

เก้าคน [ที่เซ็นเข้ามาใหม่] มันมากเกินไปสำหรับผม แต่เราจำเป็นต้องทำ… ไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นหวัง”

นี่คือคำสารภาพที่หาได้ยากจากปากของผู้จัดการทีมระดับโลก มันคือการยอมรับว่าการ “ยกเครื่อง” ทีมครั้งใหญในช่วงซัมเมอร์ อาจส่งผลกระทบต่อ “เคมี” และ “ความสมดุล” ภายในทีมมากกว่าที่คาดคิด

เรามีงานต้องทำอีกมาก เราต้องพยายามสร้างเคมีที่เราเคยมีเมื่อปีที่แล้วขึ้นมาใหม่” คอนเต้ย้ำ “เมื่อคุณนำผู้เล่นหน้าใหม่ 9 คนเข้ามาสู่ห้องแต่งตัว มันต้องใช้เวลา”

ภาพในสนามที่ ไอนด์โฮเฟ่น คือเครื่องยืนยันชั้นดี 7 จาก 16 ผู้เล่นที่ลงสนามคือแข้งใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช, แซม บิวเคม่า หรือ ลอเรนโซ่ ลุคก้า การหลอมรวมผู้เล่นเหล่านี้ให้เข้ากับโครงสร้างเดิมที่แข็งแกร่ง คือภารกิจที่ท้าทายอย่างยิ่ง

ณ ตอนนี้ นาโปลีรั้งอันดับ 3 ในเซเรีย อา ตามหลังจ่าฝูง เอซี มิลาน เพียงแต้มเดียว แต่สถานการณ์ในแชมเปียนส์ลีกกลับน่าเป็นห่วง (รั้งอันดับ 22 ในรอบลีก)

คำพูดของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในครั้งนี้ คือการส่งสาส์นที่ชัดเจนถึงแฟนบอลและบอร์ดบริหาร… พวกเขาต้อง “อดทน” และ “เชื่อมั่น” ในกระบวนการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ แม้ว่ามันอาจจะต้องแลกมาด้วยผลการแข่งขันที่เจ็บปวดในระยะสั้นก็ตาม นี่คือบทพิสูจน์ฝีมือครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของเขา