7msport

อินเตอร์ มิลาน สร้างค่ำคืนสุดคลาสสิกในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ บาร์เซโลน่า ไปอย่างสุดระทึกด้วยสกอร์รวม 7-6 หลังจบช่วงต่อเวลาพิเศษ ในรอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จอย่างเหลือเชื่อ

เกมทำท่าว่าจะเป็นของ บาร์เซโลน่า เมื่อพวกเขานำอยู่ 3-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และกำลังจะผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูรวม แต่แล้ว ฟรานเชสโก้ อแซร์บี เซ็นเตอร์แบ็กจอมเก๋าวัย 37 ปี ก็มาสวมบทฮีโร่ซัดประตูตีเสมอให้ อินเตอร์ ในนาทีที่ 90+2 (ตามเวลาที่ระบุในข่าวคือเหลืออีก 2 นาที) ก่อนจะวิ่งถอดเสื้อฉลองอย่างบ้าคลั่ง

และดราม่ายังไม่จบแค่นั้น เมื่อ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ตัวสำรอง กลายเป็นซูเปอร์ซับของแชมป์อิตาลี ปั่นโค้งด้วยซ้ายสุดสวยเสียบมุมเข้าไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ พา อินเตอร์ พลิกกลับมาชนะในที่สุด ท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องจากแฟนๆ ที่ปีนรั้วขึ้นไปฉลองกับนักเตะ

ผลการแข่งขันนัดนี้หมายความว่า อินเตอร์ มิลาน แชมป์ยุโรป 3 สมัย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่สองในรอบสามฤดูกาล หลังจากสองเลกที่เต็มไปด้วยความดราม่า มีประตูเกิดขึ้นรวมถึง 13 ลูก และสถานการณ์พลิกไปพลิกมาหลายครั้ง

บาร์เซโลน่า เกือบจะได้เข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังจากที่พวกเขาสู้กลับจากตามหลัง 0-2 (สถานการณ์คล้ายกับนัดแรก) มานำ 3-2 ในเกมนี้ ลามีน ยามาล เกือบจะพาทีมไปถึงการดวลจุดโทษได้ แต่ถูก ยานน์ ซอมเมอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟถึงสองครั้ง ทำให้ อินเตอร์ สามารถรักษาสกอร์และผ่านเข้ารอบไปได้สำเร็จ

อินเตอร์ มิลาน ซึ่งพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ในนัดชิงปี 2023 จะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือ อาร์เซน่อล ในนัดชิงชนะเลิศปี 2025 ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ของ บาเยิร์น มิวนิค ในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม โดย อาร์เซน่อล จะลงเล่นนัดที่สองที่ฝรั่งเศสในคืนวันพุธนี้ หลังจากพ่ายแพ้คาบ้าน 0-1 ในนัดแรก