ชัยชนะ 2-1 เหนือ บาร์เซโลน่า ในศึก เอล กลาซิโก้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ตุลาคม 2025) ไม่ใช่แค่การคว้า 3 คะแนนที่ทำให้ เรอัล มาดริด นำจ่าฝูง ลา ลีกา ห่างออกไป 5 แต้ม แต่มันคือ “ชัยชนะ” ครั้งสำคัญที่สุดของ ชาบี อลอนโซ่… ชัยชนะในการต่อสู้กับ “ความกดดัน” และ “คลื่นใต้น้ำ” ที่กำลังก่อตัวขึ้นในห้องแต่งตัวของเขาเอง
ณ วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2025 แม้สถานการณ์ภายนอกจะดูสวยหรู แต่เบื้องหลังฉากที่ บัลเดเบบาส กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด The Athletic ได้เปิดเผยว่านับตั้งแต่อลอนโซ่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายน เขาได้พยายาม “ปฏิวัติ” วัฒนธรรมของสโมสร และมันก็ได้สร้างรอยร้าวกับกลุ่มผู้เล่นซีเนียร์หลายคน
การเปลี่ยนแปลงที่ถูกต่อต้าน อลอนโซ่เข้ามาแทนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้ซึ่งเป็นที่รักของนักเตะ เขาพบว่าห้องแต่งตัวนี้เต็มไปด้วย “นิสัยที่ไม่ดีหลายอย่าง” ที่เคยชินมาจากยุคก่อน สิ่งแรกที่เขาทำคือการเรียกประชุมทีมและวาง “กฎเหล็ก” ชุดใหม่:
- ความเข้มข้น: ทุกคนต้องวิ่งมากขึ้น ทำงานหนักขึ้นในเกมรับ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครถูกการันตีตำแหน่งตัวจริง
- ระเบียบวินัย: เน้นย้ำเรื่องการตรงต่อเวลา, การฝึกซ้อมในยิมที่เข้มงวดขึ้น, และการวิเคราะห์วิดีโอทั้งแบบกลุ่มและเดี่ยว
- การปิดห้องแต่งตัว: อลอนโซ่จำกัดจำนวนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ฝึกซ้อมและห้องแต่งตัวในช่วงก่อนแข่งและพักครึ่ง เพื่อสร้างสมาธิและความเป็นส่วนตัวสูงสุด แม้แต่ครอบครัวหรือเอเยนต์ของนักเตะก็ไม่ได้รับอนุญาตเหมือนเช่นเคย
“ชาบีพยายามรับประกันระเบียบวินัยที่มากขึ้นในทุกๆ วัน” แหล่งข่าววงในกล่าว
เสียงกระซิบแห่งความไม่พอใจ การเปลี่ยนแปลงที่เข้มงวดนี้ ไม่เป็นที่พอใจของนักเตะซีเนียร์หลายคน ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับอิสระภายใต้การคุมทีมของ อันเชล็อตติ “พวกเขารู้สึกว่าตอนนี้มีอิสระในการแสดงความสามารถในสนามน้อยลง” แหล่งข่าวใกล้ชิดผู้เล่นในทีมชุดใหญ่เผย “บางคนในทีมคว้าแชมป์มามากมายโดยไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ และพอถูกบังคับ พวกเขาก็บ่น มันไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้เล่นที่เคยเป็น ‘ผู้นำ’ มาก่อน”
แหล่งข่าวอีกรายถึงกับกล่าวเปรียบเทียบอย่างเจ็บแสบว่า “เขาคิดว่าตัวเองเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่สำหรับตอนนี้ เขาเป็นแค่ ชาบี” นอกจากนี้ นักเตะหลายคนยังรู้สึกว่า อลอนโซ่ “เข้าถึงยาก” และ “รักษาระยะห่าง” เกินไป ผิดกับอันเชล็อตติที่เหมือนพ่อ
บทพิสูจน์ที่ เอล กลาซิโก้ ความพ่ายแพ้ยับเยินต่อ แอตเลติโก มาดริด 2-5 เมื่อเดือนกันยายน คือจุดแตกหักที่ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักว่าทีมชุดนี้ “ขาดภาวะผู้นำ” ชัยชนะเหนือ ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งผ่านมา จึงเป็นเหมือน “คำตอบ” ที่อลอนโซ่ใช้สยบเสียงวิจารณ์เหล่านั้น
การกล้าที่จะให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง อาร์ด้า กูแลร์ (ที่ลงมาสร้างความแตกต่างในเกมล่าสุด) และการเรียกฟอร์มเทพของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (15 ประตู จาก 11 นัด) กลับคืนมา คือความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของเขา
ชาบี อลอนโซ่ อาจจะยังไม่ใช่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่เขากำลังสร้าง เรอัล มาดริด ในแบบฉบับของตัวเอง แม้ว่าเส้นทางนั้นจะต้องแลกมาด้วยความไม่พอใจของลูกทีมบางคนก็ตาม และตราบใดที่ผลการแข่งขันยังคงเป็นใจ… “สงครามเย็น” ในห้องแต่งตัวครั้งนี้ ก็จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน่าติดตาม