7msport

คลาสที่แท้จริง! วิเคราะห์เหตุผลว่าทำไม “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” คือคนที่ลิเวอร์พูลขาดไม่ได้

ท่ามกลางความอึดอัดตลอด 94 นาทีที่ เทิร์ฟ มัวร์, เสียงนกหวีดของผู้ตัดสินที่ชี้ไปที่จุดโทษในนาทีสุดท้ายเปรียบเสมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และชายผู้รับหน้าที่สังหารไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ก้าวเข้ามารับความกดดันทั้งหมดไว้บนบ่า และเปลี่ยนมันเป็นประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเฉือนเอาชนะเบิร์นลีย์ไปได้อย่างสุดระทึก 1-0

นี่คืออีกครั้งที่ “ราชาอียิปต์” ตอกย้ำให้เห็นว่าเหตุใดเขาจึงเป็นผู้เล่นที่ อาร์เน่ สล็อต ไม่สามารถเปลี่ยนตัวออกจากสนามได้ แม้ว่าตลอดทั้งเกม ซาลาห์จะดูเหมือนมีวันที่ไม่ดีนัก การจับบอลดูติดๆ ขัดๆ และแทบไม่มีพื้นที่ให้เล่นงานแนวรับของเจ้าบ้านที่ลงไปตั้งรับอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อทีมต้องการประตูมากที่สุด เขาก็พร้อมที่จะเป็นคนตัดสินเกมเสมอ

สถิติใหม่และการตัดสินใจของสล็อต

ประตูนี้ไม่เพียงแต่จะส่งให้ลิเวอร์พูลสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่คว้าชัยชนะ 4 นัดติดต่อกันด้วยประตูชัยที่ยิงได้ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูที่ 188 ในพรีเมียร์ลีกของซาลาห์ ทำให้เขาแซงหน้า แอนดี้ โคล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของลีกแต่เพียงผู้เดียว

อาร์เน่ สล็อต เปิดเผยหลังเกมว่าในช่วงท้าย เขาคิดถึงการเปลี่ยนตัวแทบทุกตำแหน่งเพื่อหาประตูชัย แต่สุดท้ายก็กลับมาสู่ข้อสรุปเดิมๆ ที่ว่า “ผมไม่อยากออกจากสนามแห่งนี้ด้วยผลเสมอ แล้วมานั่งคิดว่าทำไมผมไม่ส่งกองหน้าทั้งหมดลงไป… ส่วนการจะเปลี่ยนโมออกน่ะเหรอ? ถ้าคุณต้องการประตู มันอาจจะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้หรือฤดูกาลหน้า แต่เชื่อเถอะว่ามันจะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ แน่นอน” การตัดสินใจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่สล็อตมีต่อซาลาห์อย่างเต็มเปี่ยม

บทบาทที่เปลี่ยนไปท่ามกลางคลื่นลูกใหม่

แม้ฟอร์มโดยรวมของซาลาห์ในช่วงเปิดฤดูกาลนี้อาจจะยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าปีก่อนๆ แต่เขายังคงมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญของทีมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูชัยใส่บอร์นมัธ, แอสซิสต์ให้ ริโอ งูโมฮา ยิงดับนิวคาสเซิ่ล และล่าสุดกับจุดโทษประวัติศาสตร์ลูกนี้

การมาถึงของแนวรุกรุ่นใหม่ค่าตัวมหาศาลอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค, อูโก้ เอกิติเก้ และ ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าลิเวอร์พูลกำลังวางแผนสำหรับอนาคตและลดการพึ่งพาซาลาห์ลง แต่ในขณะที่ผู้เล่นใหม่กำลังปรับตัว “ราชาอียิปต์” วัย 33 ปี ก็ยังคงพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงเป็นหัวใจในแนวรุกที่ทีมจะขาดไปไม่ได้

“เรามีผู้เล่นใหม่หลายคนในทีมตัวจริง มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับเกมของเรา” ซาลาห์กล่าวหลังเกม “เราพยายามทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจที่สุด อเล็กซ์ (อิซัค) ก็เพิ่งย้ายเข้ามา เราพยายามหาจุดสมดุลร่วมกัน”

ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเป็นวันที่ยากลำบากและน่าผิดหวังสำหรับฟอร์มส่วนตัว แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ยังคงเป็นคนสุดท้ายที่ได้หัวเราะ และตอกย้ำสถานะ “ตำนาน” ของเขาในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป