เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูของ แอสตัน วิลลา พลาดโอกาสย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ แม้จะตกลงเงื่อนไขส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ทีมของ รูเบน อาโมริม ตัดสินใจหันไปคว้าตัว เซนเน ลัมเมนส์ จาก รอแยล อันต์เวิร์ป แทน ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 18.2 ล้านปอนด์ บวกเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก 3.5 ล้านปอนด์
แม้ว่า มาร์ติเนซ วัย 33 ปี จะรอการติดต่ออยู่ที่สนามซ้อมของ แอสตัน วิลลา ในวันปิดตลาด แต่สายที่เขารอคอยจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยมาถึง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเจ้าตัวถึงขั้นขอให้ ลิซันโดร มาร์ติเนซ กองหลังเพื่อนร่วมชาติช่วยการันตีคุณภาพให้กับทีมปีศาจแดง
อย่างไรก็ตาม มาร์ติเนซ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในทีมของ อูไน เอเมรี และมีสัญญาผูกมัดถึงปี 2029 ซึ่งด้วยสถานะการเป็นแชมป์โลกและผลงานโดดเด่น ทำให้บอร์ดบริหารที่ วิลลา พาร์ก ต้องการค่าตัวที่สูงกว่าดีลของ ลัมเมนส์ มาก
ครอบครัวของผู้รักษาประตูรายนี้ออกมาเปิดใจถึงเบื้องหลังที่ทำให้การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น โดย อเลฆานโดร พี่ชายของเขาเผยกับ DSports Radio ว่า
“ผมได้รับบอกว่า เอมิ ทุ่มเททั้งในฐานะนักฟุตบอลและคนธรรมดา พวกเขารักเขามาก และสิ่งนั้นสะท้อนชัดเจนในสนาม เขาเป็นที่ชื่นชอบ และบอร์ดไม่ต้องการขายเขา เพราะเขาคือหัวใจหลักของทีม มันเป็นข้อขัดแย้งในเชิงธุรกิจ”
เขายังย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะกับกุนซือ
“เอมิ ไม่เคยมีปัญหากับ อูไน เอเมรี ทุกอย่างอยู่ในการตัดสินใจของผู้บริหาร สโมสรทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้เท่านั้นเอง”
เมื่อถูกถามถึงความสำคัญของผู้รักษาประตูทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้ อเลฆานโดร ตอบอย่างมั่นใจว่า
“ที่ แอสตัน วิลลา เขาคือเหมือนกับ ดิเอโก มาราโดนา ที่ นาโปลี เขามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ทีม เหมือนกับที่ กุน อเกวโร เคยทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี และที่ เลโอ เมสซี ทำไว้กับ บาร์เซโลนา เขาได้กลายเป็นตำนาน และมันไม่ง่ายเลยที่จะหาคนมาแทนสิ่งที่เขามอบให้กับสโมสร”