การขาดหายไปของกัปตันทีมคนสำคัญอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด จากอาการบาดเจ็บ ควรจะเป็นข่าวร้ายที่สั่นสะเทือนเสถียรภาพของอาร์เซนอล แต่ในความเป็นจริง มันกลับกลายเป็นการเปิดม่านแสดงให้เห็นถึง “วิวัฒนาการ” ครั้งสำคัญในแดนกลางของ มิเกล อาร์เตต้า ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม
ณ วันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2025 อาร์เซนอลไม่ได้แค่ “เอาตัวรอด” ในวันที่ไร้เพลย์เมกเกอร์คนเก่ง แต่พวกเขากำลัง “เติบโต” ขึ้น ด้วยมิติใหม่ที่เกิดจากการประสานงานกันของสองแข้งใหม่อย่าง มาร์ติน ซูบิเมนดี้ และ เอเบเรชี่ เอเซ่
หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ “ความไหลลื่น” (Fluidity) ในแดนกลาง มันไม่ใช่แนวคิดใหม่สำหรับอาร์เซนอล แต่การได้ผู้เล่นที่มีเทคนิคระดับสูงเข้ามาเพิ่ม ทำให้มิติของทีมแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ดังที่อาร์เตต้าเคยกล่าวไว้ว่า “มันคือการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ทำให้ทีมคาดเดาได้ยากขึ้นและอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะจากพื้นที่ด้านใน”
อาวุธใหม่: การจ่ายบอลไดเร็คทะลุช่อง (Direct balls into the channels)
แทนที่จะต้องพึ่งพาการสร้างสรรค์เกมจากคนๆ เดียว อาร์เซนอลในตอนนี้ใช้ “ระบบ” ที่ซับซ้อนขึ้นในการเจาะแนวรับคู่แข่ง พวกเขาใช้การเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดของแผงมิดฟิลด์ เพื่อสร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบ ก่อนจะใช้อาวุธเด็ดคือ “การจ่ายบอลไดเร็คเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างเซ็นเตอร์แบ็กและฟูลแบ็ก”
และคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแท็กติกนี้ก็คือ วิคตอร์ เกียวเคเรส กองหน้าคนใหม่ของทีมนั่นเอง อาร์เตต้ายอมรับว่า “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเกียวเคเรสคือการวิ่งหาพื้นที่ และทีมก็พยายามสร้างสถานการณ์ให้เขาได้ใช้ความสามารถนั้นให้มากที่สุด
เบื้องหลังความสำเร็จ: การเคลื่อนที่ที่ชาญฉลาด
กุญแจสำคัญที่ทำให้แท็กติกนี้สมบูรณ์แบบคือการเคลื่อนที่ของผู้เล่นคนอื่นๆ โดยเฉพาะแบ็กซ้ายอย่าง ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ ที่มักจะ “หุบเข้ามาตรงกลางสนาม” เพื่อสร้างความสับสนให้กับการประกบตัวของคู่แข่ง และสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม
ยกตัวอย่างเช่นในเกมกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ การวิ่งสอดทะลุขึ้นไปข้างหน้าของซูบิเมนดี้ ได้ดึงกองกลางของฟอเรสต์ให้ตามลงไปลึก จนเปิดพื้นที่ให้คาลาฟิโอรี่มีเวลาและพื้นที่ในการจ่ายบอลทะลุช่องให้เอเซ่หลุดเข้าไปเปิดบอลให้เกียวเคเรสเข้าชาร์จเป็นประตู ทุกการเคลื่อนที่มีความหมายและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ
การบาดเจ็บของโอเดการ์ดจึงกลายเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีว่าอาร์เซนอลในวันนี้ ไม่ได้พึ่งพานักเตะคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป แต่พวกเขากำลังกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งด้วย “ระบบ” ที่ทุกคนเข้าใจและพร้อมที่จะทดแทนกันได้เสมอ ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคู่แข่งในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้