ปี 2025 จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ MotoGP ว่าเป็นปีที่ถูกเขียนด้วยนามสกุล “มาร์เกซ” แต่ทว่า มันคือลายเซ็นของคนสองคนที่แตกต่างกันราว “ไฟ” กับ “น้ำแข็ง”
มาร์ค มาร์เกซ (แชมป์โลก) และ อเล็กซ์ มาร์เกซ (รองแชมป์โลก) ไม่ได้แค่แบ่งปันโพเดียม แต่พวกเขาได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า “ไม่มีสไตล์ใดดีที่สุด” มีเพียงสไตล์ที่สมบูรณ์แบบในแบบของตัวเอง ภายใต้เครื่องมือที่เรียกว่า ดูคาติ
มาร์ค มาร์เกซ (ทีมโรงงาน): “ไฟ” ผู้เกรี้ยวกราดที่สุขุมขึ้น
“จอมเก๋าผู้กลับมาทวงบัลลังก์” คือนิยามของ มาร์ค มาร์เกซ ในปีนี้ เขาคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง “ความเกรี้ยวกราด” ดั้งเดิม กับ “ความเก๋าเกม” ที่น่าสะพรึงกลัว
เงามัจจุราชที่น่ากลัวที่สุด… คือคนที่เร็วที่สุด และยัง “อ่านเกม” เป็น
ภาพของ มาร์ค ที่ขี่แบบ “ไม่ล้มก็ชนะ” (All or Nothing) เหมือนสมัยอยู่กับฮอนด้า ได้จางหายไปแล้ว การย้ายมาอยู่ทีมโรงงานดูคาติ (GP25) ทำให้เขาได้รถที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ “การบริหารความเสี่ยง”
เขายังคงดุดันในการแซง ยังกล้าเสี่ยงในจังหวะ 50/50 แต่เขา “เลือกจังหวะ” ที่จะเสี่ยง เขารู้ดีว่ารถดีพอที่ไม่ต้องขี่เกินขีดจำกัดทุกโค้ง
จุดแข็งที่สุดของเขาคือ “การปรับตัว” เขาลดการพึ่งพาการ “เซฟ” ด้วยศอกและเข่าแบบบ้าคลั่งในอดีต และหันมาใช้จุดแข็งของดูคาติในการเร่งออกจากโค้งแทน เขารวมสไตล์เก่า (เบรกหนัก) เข้ากับสไตล์ใหม่ (เน้นทางตรง) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผนวกกับ “ประสบการณ์” หลังผ่านนรกอาการบาดเจ็บ เขานิ่งขึ้น รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเก็บ 20 แต้ม (อันดับ 2) แทนที่จะเสี่ยงเพื่อ 25 แต้มแล้วจบด้วย 0 ผลลัพธ์คือสถิติใหม่ ชนะ “ดับเบิล” (Sprint และ GP หลัก) ถึง 10 ครั้งในปีเดียว นี่คือความสม่ำเสมอของคนที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อเป็นแชมป์
อเล็กซ์ มาร์เกซ (ทีมรอง): “น้ำแข็ง” ผู้นุ่มนวลที่เบ่งบาน
ถ้า มาร์ค คือ “ไฟ” ที่ร้อนแรง… อเล็กซ์ คือ “น้ำ” ที่ไหลลื่นและเยือกเย็น
ปี 2025 คือปีที่ อเล็กซ์ ก้าวข้ามคำว่า “น้องชายของมาร์ค” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาคือ “ม้ามืดที่เบ่งบานเต็มที่”
สไตล์ของ อเล็กซ์ แทบจะตรงข้ามกับพี่ชาย เขาไม่ใช่คนที่เบรกหนักจนล้อหลังลอย แต่เขาคือ “The Stylist” จุดเด่นของเขาคือ “ความเร็วในโค้ง” (Corner Speed) ที่สูงมาก เขารักษาไลน์ได้เนียนกริบ และขี่แบบ “เป็นหนึ่งเดียว” กับรถ ซึ่ง มาร์ค เคยยอมรับว่า “ประทับใจ” และ “สมูทมาก”
จุดแข็งที่ส่งเขาขึ้นมาคือ “ความสม่ำเสมอ” ในช่วงต้นฤดูกาล เขาคือ “Mr. Second” ที่ขึ้นโพเดียมต่อเนื่องจนเป็นผู้นำแชมป์โลก นี่คือความนิ่งที่น่าทึ่ง
และที่สำคัญที่สุดคือ “จุดแข็งเฉพาะตัว” มาร์ค เคยยอมรับเองว่า “จุดแข็งของอเล็กซ์ คือจุดอ่อนของผม” โดยเฉพาะใน “โค้งขวายาวๆ” (เช่นที่ คาตาลุนญา) ที่ อเล็กซ์ ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน นี่คือข้อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เก่งเพราะขี่ตามไลน์พี่ชาย แต่เขามีวิธีเอาชนะสนามในแบบของตัวเอง
เมื่อสองขั้วมาบรรจบ
“เราเป็นพี่น้อง แต่เรามีสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน” มาร์ค กล่าวย้ำเมื่อเดือนกันยายน
ปี 2025 คือบทพิสูจน์นั้น… มาร์ค (แชมป์โลก): ชนะด้วย “ความดุดัน + ประสบการณ์” อเล็กซ์ (รองแชมป์โลก): ชนะด้วย “ความนุ่มนวล + ความสม่ำเสมอ”
ทั้งคู่ขึ้นถึงจุดสูงสุดได้ เพราะพวกเขารีดศักยภาพที่ดีที่สุดของ “ตัวเอง” ออกมา โดยมี ดูคาติ เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการสนับสนุนสไตล์ที่แตกต่างกันสุดขั้วของพวกเขานั่นเอง