เออร์ลิง ฮาแลนด์ ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อผลงานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยเจ้าตัวระบุว่าเป็นปีที่ “น่าเบื่อและไม่มีความสุข” หลังทีมหล่นมาอยู่อันดับ 4 ของตาราง และยังไม่การันตีโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก
นับตั้งแต่ย้ายมาสู่ถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ดาวยิงชาวนอร์เวย์เคยสัมผัสแชมป์มากมาย ทั้งการคว้าทริปเปิลแชมป์ในปีแรก และป้องกันแชมป์ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาลถัดมา แต่ปีนี้ฟอร์มของทีมดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ มีผลงานย่ำแย่ ชนะเพียงเกมเดียวจาก 9 นัด ทำให้หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ลีกไปโดยปริยาย ปัจจุบันพวกเขาต้องเก็บชัยให้ได้ใน 2 เกมสุดท้าย เพื่อจบอย่างน้อยในอันดับ 5 และการันตีไปเล่นถ้วยใหญ่ยุโรป
แม้จะพ่ายแพ้ในลีกถึง 9 เกม แต่ ฮาแลนด์ ยังเชื่อว่าทีมยังมีโอกาสจบฤดูกาลด้วยรอยยิ้ม หากสามารถคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้
ฮาแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับ BBC Sport ว่า
“ฤดูกาลนี้มันยากมาก การแพ้หลายครั้งไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย มันน่าเบื่อจริงๆ เราจำเป็นต้องจบฤดูกาลให้ดีและคว้าแชมป์ให้ได้ การเข้าชิงที่ เวมบลีย์ เป็นสิ่งสำคัญ และเรายังมีโอกาสทำมันในฤดูกาลที่น่าผิดหวังแบบนี้”
จากนั้น ฮาแลนด์ กล่าวเสริมว่า
“พอคุณคว้าแชมป์ลีกได้ 4 ปีติด ถ้าปีนี้ทำไม่สำเร็จ มันก็ถือว่าไม่ใช่ฤดูกาลที่ดี นั่นคือมาตรฐานที่เราตั้งไว้ เราทำผลงานในลีกได้ไม่ดีพอ แต่ก็ยังหวังว่าจะติดอันดับไป แชมเปี้ยนส์ลีก ได้”
หัวหอกวัย 23 ปี เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างร้อนแรง ซัดไป 10 ประตูจาก 5 นัดแรก แต่หลังจากนั้นยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 23 เกมถัดมา อีกทั้งยังต้องเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้หมดลุ้นคว้ารางวัลดาวซัลโวเป็นปีที่สามติดต่อกัน
นอกจาก ฮาแลนด์ แล้ว ยังมีนักเตะหลักหลายรายของ แมนฯ ซิตี้ ที่เจ็บยาว โดยเฉพาะ โรดรี้ ที่พลาดลงสนามในหลายช่วงตลอดฤดูกาล แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ทีมไม่ควรใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อแก้ตัว
ฮาแลนด์ กล่าวปิดท้ายว่า
“เราต้องเล่นให้ดีกว่านี้ในเกมสำคัญๆ เราขาดความสม่ำเสมอ และชนะติดต่อกันได้น้อยเกินไป แน่นอนว่าเราเจออาการบาดเจ็บหลายครั้ง แต่เราทุกคนยังทำได้ไม่ดีพอ ถ้าไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ก็เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะทีมอื่นในลีกนี้ เพราะการแข่งขันมันสูงมาก”