ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในการปลด อังเก้ โปสเตโคกลู ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม
โดยให้เหตุผลว่าการคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก นั้น “ยังไม่เพียงพอ” สำหรับความทะเยอทะยานของสโมสร พร้อมประกาศกร้าวว่า “ความล้มเหลวไม่ใช่ทางเลือก” และได้ตั้งเป้าหมายให้ โธมัส แฟรงค์ กุนซือคนใหม่ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ไก่เดือยทอง” ไม่ได้สัมผัสมาตั้งแต่ปี 1961
หลังจากที่ สเปอร์ส สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บิลเบา ซึ่งถือเป็นถ้วยแรกในรอบ 17 ปี และเป็นถ้วยยุโรปใบแรกในรอบ 41 ปีของสโมสร พร้อมการันตีตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เลวี่ ได้กล่าวถึงความสำเร็จดังกล่าวว่า “คุณได้เห็นแล้วถึงอารมณ์ความรู้สึกที่หลั่งไหลออกมากับการเฉลิมฉลอง มันช่างน่าเหลือเชื่อ เราคว้าแชมป์ยุโรปได้”
อย่างไรก็ตาม ประธานสโมสรจอมเขี้ยวได้กล่าวเสริมในสิ่งที่สร้างความประหลาดใจว่า “แต่มันยังไม่เพียงพอ สิ่งที่เรายังไม่ได้ทำนั้นสำคัญกว่า เราจำเป็นต้องคว้าแชมป์ลีก เราต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เราต้องการคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก เราต้องการชัยชนะ”
การตัดสินใจปลด โปสเตโคกลู ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “มติเอกฉันท์” ของบอร์ดบริหารสเปอร์ส เกิดขึ้นเพียง 16 วันหลังจากที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ ทว่าผลงานในพรีเมียร์ลีกที่จบอันดับ 17 ซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยแพ้ไปถึง 22 จาก 38 นัด กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สโมสรตัดสินใจแยกทางกับกุนซือชาวออสเตรเลีย และดึงตัว โธมัส แฟรงค์ มาจาก เบรนท์ฟอร์ด
ในการให้สัมภาษณ์กับทีมสื่อภายในของสเปอร์ส ซึ่งมี วินัย เวนเกตชาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่นั่งอยู่ด้วย เลวี่ ได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งแรก (เนื่องจากในแถลงการณ์ปลด อังเก้ ไม่มีความเห็นจากเลวี่โดยตรง เพราะถือเป็นมติบอร์ด) “คุณก็รู้ว่าผมเป็นคนไหล่กว้าง ความล้มเหลวไม่ใช่ทางเลือก ความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จนั้นยิ่งใหญ่ เพราะมันเป็นเรื่องยาก ผมจึงยิ่งอยากจะประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก”
“ผมรู้สึกขอบคุณ อังเก้ เป็นอย่างมาก ผมไม่เสียใจที่แต่งตั้ง อังเก้ ในฤดูกาลแรกของเขา เราจบอันดับห้า และในฤดูกาลที่สอง เราดีใจมากที่คว้าแชมป์ได้ แต่เราจำเป็นต้องแข่งขันในทุกรายการ และเรารู้สึกว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลง ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับเขา ผมได้บอกเขาไปแล้วว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเราเสมอ ตัวเขาและครอบครัวของเขายินดีต้อนรับกลับมาเสมอ มันเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ไม่ใช่การตัดสินใจของผมคนเดียว เราทำทุกอย่างร่วมกัน ในแง่อารมณ์มันเป็นเรื่องยาก แต่เราเชื่อว่าเราได้ตัดสินใจสิ่งที่ถูกต้องสำหรับสโมสร”
เลวี่ ยังกล่าวถึงการแต่งตั้ง โธมัส แฟรงค์ ว่า “เมื่อใดก็ตามที่คุณมีโค้ชคนใหม่ มันคือการเริ่มต้นใหม่เสมอ คุณมักจะได้ไอเดียที่แตกต่างออกไป แต่เราต้องการต่อยอดความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมเกี่ยวกับ โธมัส คือเขาฉลาดหลักแหลมอย่างเห็นได้ชัด เป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยม เป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม บวกกับคุณสมบัติทางเทคนิคอื่นๆ ที่สำคัญอย่างชัดเจน”
ด้าน วินัย เวนเกตชาม ได้อธิบายถึงกระบวนการคัดเลือกกุนซือใหม่ว่า สเปอร์ส ได้ “กำหนดคุณลักษณะ 10 ประการที่เราคิดว่าสำคัญสำหรับการเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์” ซึ่งทำให้ โธมัส แฟรงค์ กลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง
“เราวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ผ่านทีมงานเทคนิคของเราที่นำโดย โยฮัน [ลังเก้ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค] ผู้สมัครมากกว่า 30 คน เรามีรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือก เราใช้เวลาอย่างมากกับรายชื่อนั้น และ โธมัส คือผู้สมัครอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง” เวนเกตชาม กล่าว
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่สูงขึ้นของสโมสร และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่พอใจกับความสำเร็จเพียงเล็กน้อยอีกต่อไป ต้องติดตามกันต่อไปว่าภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ “ไก่เดือยทอง” จะสามารถก้าวไปถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่